Pinakin Patel, ASIP Product Specialist Allianz Global Investors เปิดเผยในงานสัมมนา BUALUANG FUND INVESTMENT FORUM TOWARDS 2019 ในหัวข้อ “WILL CHINA CONTINUE ITS RISING DOMINANCE IN THE GLOBAL CAPITAL MARKETS IN 2019?” ว่า ประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้น ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจจีน เนื่องจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนได้ทยอยลดสัดส่วนรายได้ที่มาจากการค้ากับต่างประเทศที่เคยมีน้ำหนักต่อเศรษฐกิจจีนมาก แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายในประเทศให้มีน้ำหนักต่อเศรษฐกิจมากขึ้น
สำหรับสัดส่วนการส่งออกไปยังสหรัฐของจีนเมื่อปี 2006 อยู่ที่ 10.5% ของการส่งออกทั้งหมด ได้ลดมาเหลือ 3.5% ในปี 2017 โดยรวมคาดว่าสงครามการค้าที่สหรัฐตั้งกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนนั้นจะทำให้มีผลกระทบเพียง 0.8-1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน เท่านั้น
อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้มีนโยบายที่ส่งเสริมให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง เช่น นโยบายที่จะช่วยเร่งการบริโภคภายในประเทศ การเดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยชดเชยผลกระทบสงครามการค้าได้มาก เพียงแต่นโยบายอาจไม่เห็นผลทันทีทันใด ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือนจึงจะเห็นผล ขณะที่ ปลายเดือนนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งคาดว่าจะเห็นมาตรการต่างๆ ที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจีนออกมาเพิ่มเติมอีก
ทั้งนี้ มั่นใจว่า หากมองไปข้างหน้า ตลาดจีนยังเป็นโอกาสลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะหากเปิดช่องให้นักลงทุนสถาบันจากต่างประเทศเข้าไปลงทุนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในตลาดหุ้นจีนยังมีนักลงทุนรายย่อยในประเทศ ซึ่งเมื่อเป็นรายย่อยก็มักจะมองการลงทุนในระยะสั้นๆ ทำให้ตลาดมีความผันผวนสูง แต่อนาคตหากเป็นเหมือนหลายๆ ตลาดที่เปิดให้นักลงทุนสถาบันเข้าลงทุนมากขึ้นก็จะเห็นการลงทุนในตลาดที่ระยะยาวขึ้น