สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จีนจะชิงตำแหน่งประเทศจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดในปี 2030 แซงแชมป์อย่างสิงคโปร์ไปได้ โดยข้อมูลนี้มาจากรายงานล่าสุดที่ออกโดยบริษัทวิจัยตลาดในลอนดอน อย่างยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล
รายงานฉบับนี้ถูกเปิดเผยขึ้นในงานด้านการตลาดท่องเที่ยวใหญ่ระดับโลกที่จัดขึ้นในลอนดอน โดยระบุว่า ปีนี้จะเห็นการเดินทางทั้งหมด 1,400 ล้านทริปเกิดขึ้นทั่วโลก เพิ่มขึ้น 5% จากปีที่ผ่านมา โดยแหล่งท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างยั่งยืนส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอัตราการเติบโตถึง 10% ในปีนี้
นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ทริปเดินทางระหว่างประเทศจะแตะระดับ 2,400 ล้าน ทริปภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยจีนจะเป็นตลาดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2030 ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก
เศรษฐกิจที่เติบโต และรายได้ที่สูงขึ้นของคนในประเทศเอเชียเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เดินทางไปเที่ยวจีนมากขึ้น ส่วนข้อจำกัดด้านวีซ่าที่ผ่อนคลายลง และการจัดกิจกรรมใหญ่ เช่น โอลิมปิกฤดูหนาว 2022 จะเป็นแรงสำคัญที่ผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวจีนมากขึ้น
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจจีน โดยการลงทุนที่เกิดขึ้นมากเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและมาตรฐาน การมีนโยบายเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวและการคิดริเริ่มใหม่ๆ เหล่านี้เป็นตัวสนับสนุนการท่องเที่ยวจีนทั้งสิ้น Wouter Geerts นักวิเคราะห์อาวุโสด้านท่องเที่ยว ของยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว ระหว่างการร่วมงานด้านการตลาดของภาคท่องเที่ยวอย่างงานเวิลด์ ทราเวล มาร์เก็ต ซึ่งจัดขึ้นที่ลอนดอน
ขณะที่ รายงานองค์กรการท่องเที่ยวโลก ระบุว่า ปัจจุบันจีน เป็นอันดับ 4 ของประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากที่สุดในโลก ตามหลังฝรั่งเศส สหรัฐ และสเปน