กองทุนบัวหลวงตอบรับนโยบายภาครัฐร่วมสนับสนุนและลดการแพร่กระจายของ ‘โควิด-19’ ย้ำความเชื่อมั่นถึงทรัพย์สินที่ลงทุนในกองทุน ‘FUTUREPF’ มีศักยภาพเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับ นักลงทุนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว หลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ โดยกองทุนฯ มีความพร้อม ด้านสภาพคล่อง เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจได้ในทุกสถานการณ์
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) บริษัทจัดการกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) กองทุน FUTUREPF ภายใต้การบริหารจัดการ โดยกองทุนบัวหลวง และบริษัท รังสิต พลาซ่า พร้อมให้ความร่วมมือและร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาการแพร่ระบาด โดยปิดให้บริการพื้นที่ศูนย์การค้า (ยกเว้นร้านค้าบางกลุ่มที่ได้รับอนุญาต) ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา จนถึงระยะเวลาที่ภาครัฐกำหนดไว้
นอกจากนี้ “ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต” ยังมีความห่วงใยและตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยส่วนรวม ในการกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เช่น เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาด ทั้งลิฟท์ บันไดเลื่อนและประตู ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 30 นาที มีจุดคัดกรองตรงประตูทางเข้า-ออก และเพิ่มจุดติดตั้งแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รวมทั้งมีมาตรการในการช่วยเหลือผู้เช่าร้านค้าภายในศูนย์การค้าฯ โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าและค่าบริการ สำหรับร้านค้าที่ปิดให้บริการตามเวลาที่ภาครัฐกำหนด ส่วนร้านค้าที่ยังคงเปิดให้บริการปกติ จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามความเหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ดี กองทุน FUTUREPF อาจจะได้รับผลกระทบอยู่บ้าง จากการปิดศูนย์การค้าเป็นการชั่วคราว แต่กองทุนบัวหลวงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทรัพย์สินที่กองทุนลงทุนในสิทธิการเช่า (บางส่วน) ของ“ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต” ยังคงมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต จากปัจจัยหลักที่ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ (“บริษัท รังสิต พลาซ่า”) มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการศูนย์การค้าเป็นอย่างดี ประกอบกับทำเลที่ตั้งของ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แวดล้อมไปด้วยแหล่งชุมชน สถาบันการศึกษา และภาคธุรกิจ ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และกรุงเทพฯ อันเป็นจุดแข็งและข้อได้เปรียบที่สำคัญของโครงการ
ประกอบกับ ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์และกองทุนบัวหลวง ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิด โดยที่ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์วางกลยุทธ์และแผนงานบริหารทรัพย์สิน ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการพื้นที่เช่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งแผนบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับกองทุนฯ ต่อไป
รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า กองทุน FUTUREPF มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ทั้งนี้ ภายหลังจัดตั้งกองทุนฯ จนถึงปัจจุบัน กองทุนฯ จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนไปแล้ว รวม 53 ครั้ง คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 15.8350 บาทต่อหน่วย ขณะเดียวกัน กองทุนบัวหลวง คาดว่า จะสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ต่อเนื่อง หากพิจารณาถึงความพร้อมด้านสภาพคล่องเพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจ จากข้อมูลงบการเงิน ณ สิ้นปี 2562 กองทุนฯ มีสถานะเงินสดและเงินลงทุนในหลักทรัพย์ระยะสั้นที่มีสภาพคล่องสูง รวมจำนวนทั้งสิ้น 435 ล้านบาท และไม่มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืม
“กองทุนบัวหลวง จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนเป็นสำคัญ พร้อมกันนี้ เราเชื่อมั่นว่า ภายหลังสถานการณ์คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติ ทรัพย์สินที่กองทุนลงทุนในสิทธิการเช่า (บางส่วน) ของฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งเป็นศูนย์การค้าระดับพรีเมียม จะยังคงมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต” รองกรรมการผู้จัดการ กล่าว
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนบัวหลวง
2 เมษายน 2563