รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการลงทุนในแนวทางการคัดเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานการทำธุรกิจที่ยั่งยืน (ESG) โดยพิจารณาจากบริษัทที่มีคะแนนความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการอย่างมีธรรมาภิบาลควบคู่ไปกับการพิจารณาปัจจัยทางการเงินแบบดั้งเดิม
ข้อมูลจากมอนิ่งสตาร์ กองทุนที่ลงทุนอย่างยั่งยืนสามารถดึงดูดกระแสเงินทุนไหลเข้าในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ท่ามกลางความวุ่นวายในตลาดทุน และพบว่ากองทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดสำหรับปีนี้
UBS คาดว่า นักลงทุนจะมุ่งเน้นไปที่การพิจารณาการลงทุนในกลุ่ม ESG มากขึ้นหลังจากโควิด-19 จากความต้องการในการลงทุนในองค์กรที่ให้ยึดความโปร่งใสและความรับผิดชอบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มากขึ้น วิกฤติโรคระบาดได้ตอกย้ำให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงความเกี่ยวข้องของกับการพิจารณา ESG ต่อผลการดำเนินงานของบริษัท และผลตอบแทนจากการลงทุน เราคาดหวังว่าสิ่งนี้จะยังคงมีอิทธิพลต่อการดำเนินงานขององค์กรและนักลงทุนต่อไปในอนาคต
กองทุนที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนดึงดูดเงินทุนจำนวนสูงสุดในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่าตลาดจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดทั่วโลก โดยกองทุนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลกมีเงินไหลเข้า 45,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เม็ดเงินลงทุนกองทุนทั้งอุตสหกรรมในวงกว้างมีเงินไหลออก 384,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ