โดย พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM
กองทุนบัวหลวง
โลกของการลงทุนในปัจจุบัน กำลังอยู่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนไปสู่อนาคต สังเกตได้จากความสามารถในการเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หรือ ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี โดยปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของเราทุกคน และเห็นได้ชัดเจนมากในช่วง Work from Home เรียกได้ว่า ตั้งแต่ตื่นจนหลับตา เทคโนโลยีมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตให้กับเราในทุกอณู
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงชีวิตเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในแง่ของการเป็นเครื่องมือปฏิบัติการเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงแนวโน้มการบริโภคในอนาคตด้วย ซึ่งเทรนด์ในการบริโภคนี้ถูกขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่ที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2523 – 2546 หรือที่เรียกว่า ยุคมิลเลนเนียล โดยคนกลุ่มนี้กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากที่สุดในตลาด ทดแทนกลุ่มคนยุค Gen X และ Baby Boomer ได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีนี้ ด้วยเหตุนี้ การเลือกลงทุนในธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคมิลเลนเนียล จึงนับว่าเป็นการคว้าโอกาสที่ดีในการลงทุนระยะยาว
สำหรับกองทุนบัวหลวงก็มองเห็นโอกาสนี้ จึงได้พิจารณาจัดตั้งกองทุนหุ้นต่างประเทศที่ชื่อว่า กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) และ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นฟิวเจอร์เพื่อการออม (B-FUTURESSF) โดยทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายลงทุนที่เหมือนกัน แต่เพิ่มเติมตรงที่กองทุน B-FUTURESSF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
นโยบายลงทุนของกองทุน B-FUTURE และ B-FUTURESSF จะไม่ได้เน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่จะมองหาธุรกิจที่สามารถปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมต่างๆ อย่างเช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาพัฒนาและปรับใช้ให้ธุรกิจมีความล้ำสมัย สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่เน้นสะดวก สบาย และสนุก เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยจะลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศ 2 กองทุน และมีบางส่วนลงทุนตรงโดยผู้จัดการกองทุนของบัวหลวง
สำหรับกองทุนหลักกองแรกมีชื่อว่า Allianz Global Artificial Intelligence กองทุนนี้จะเน้นลงทุนใน AI แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ (AI Infrastructure) แอปพลิเคชันที่ต้องใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI Application) และธุรกิจที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์พัฒนาด้านการผลิตหรือการให้บริการ (AI-enabled Industries)
กองทุนหลักอีกกองทุนชื่อว่า Fidelity Funds – China Consumer Fund กองทุนนี้เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ของจีน หรือที่เรียกกันว่า New China ซึ่งนับว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก ทั้งในแง่ของการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ล้ำสมัย เครือข่ายที่กว้างใหญ่ และจำนวนผู้บริโภคที่มีอยู่มหาศาล
นอกจากนี้ ในพอร์ตการลงทุนของ B-FUTURE ก็ยังส่วนที่ผู้จัดการกองทุนของกองทุนบัวหลวง เลือกลงทุนเองด้วย โดยคัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีศักยภาพในอนาคต อาทิ หุ้นของบริษัท Start-up ผ่านมุมมองของผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ และผู้จัดการกองทุนที่เป็นคนรุ่นใหม่ เข้าใจถึงทิศทางและแนวโน้มการบริโภคในอนาคตเป็นอย่างดี อีกทั้ง กองทุนนี้ยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผล จึงเหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นฟิวเจอร์เพื่อการออม (B-FUTURESSF) นับว่าเป็นโอกาสในการลงทุนที่ควรคว้าไว้ เพราะเปรียบเสมือนเป็นประตูที่ทำให้นักลงทุนสามารถก้าวตามเทรนด์ของโลกอนาคตได้ทัน ควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก SSF ด้วย