ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นักลงทุนต่างชาติต่างเข้ามาลงทุนในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากขนาดเศรษฐกิจของประเทศและการเติบโตที่โดดเด่นในโลกในระหว่างที่ยังต้องบริหารจัดการการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เจแอลแอล ระบุว่า กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน ระบุว่า ปี 2020 นักลงทุนต่างชาติทำข้อตกลงลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์มากกว่า 1 ใน 3 ของข้อตกลงทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
Michael Wang ผู้อำนวยการอาวุโสตลาดทุนของเจแอลแอล จีนตอนเหนือ กล่าวว่า ปักกิ่งยังเป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะเมื่อคาดว่าเมืองหลวงนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าตลาดหลักอื่นในต่างประเทศ
แม้การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกจะเกิดขึ้นปลายปี 2019 ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่เชื้อโรคนี้กระจายไปต่างประเทศและกลายเป็นโรคระบาดระดับโลกภายในเวลาไม่กี่เดือน ขณะที่โรคเริ่มหยุดระบาดในจีนช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา หลังจากภาครัฐออกมาตรการจำกัดการติดต่อกันระหว่างบุคคล ทำให้รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มเบาบางลง และจีนก็ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นประเทศเดียวในกลุ่มเศรษฐกิจโลกที่เศรษฐกิจยังมีการเติบโตในปี 2020
ปีที่ผ่านมาภาคธุรกิจใส่เงินลงทุนเข้ามามากขึ้นกับโครงการในจีน วัดได้จากยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยในเดือน พ.ย. 2020 ซึ่งยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติที่เข้ามาในจีน อยู่ที่ระดับ 129,470 ล้านดอลลาร์สหรรัฐ มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำให้จีนมียอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติสะสมทำสถิติสูงสุดปีที่ผ่านมา ตามการคาดการณ์ของ Macquarie นอกจากนี้ คาดว่า ในตลาดการเงินนั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรของจีนมูลค่าเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยทำสถิติสูงสุดเงินไหลเข้าสุทธิ 1,100 ล้านหยวนในปีที่ผ่านมา
การขยายตัวของความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อจีน และเมืองหลวงอย่างกรุงปักกิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มระยะยาว โดยพบว่า นักลงทุนต่างชาติยินดีที่จะทำธุรกรรมเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในเมืองหลวงของจีน โดยสัดส่วนเพิ่มจาก 22% หรือมากกว่า 1 ใน 5 ในปี 2018 เป็น 30% ในปี 2019 และกลายเป็น 35% ในปี 2020