ไชน่าเดลี รายงานว่า จีนเป็นผู้นำตลาด 5G ในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยมีการเชื่อต่อใหม่ใน 5G ถึง 200 ล้านครั้ง คิดเป็น 87% ของทั้งโลก และตัวเลขนี้คาดว่าจะไปแตะระดับ 822 ล้านครั้งในปี 2025 ตามรายงานที่เผยแพร่โดยสมาคมระบบการสื่อสารเคลื่อนที่โลก เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งการสมัครใช้งาน 5G ที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้รับการสนับสนุนมาจากการขยายระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่โครงข่ายในประเทศ ไปจนถึงอุปกรณ์ใช้งานปลายทาง
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้น ผู้ให้บริการเครือข่ายของจีน มีการติดตั้งสถานีฐาน 5G ไป 600,000 สถานี ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนสถานีฐาน 5G รวมอยู่ที่ 718,000 สถานีแล้ว เป็นอันดับ 1 ของโลก ตามข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและข้อมูลสารสนเทศของจีน
รายงาน คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายเงินทุนของผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะแตะระดับ 210,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2020-2025 โดย 90% จะใช้จ่ายในการพัฒนาเครือข่าย 5G ซึ่งจีนตั้งเป้าหมายในการยึดครองพื้นที่ 5G ของโลก
แม้ว่าในปัจจุบัน เครือข่าย 4G จะเป็นผู้นำเทคโนโลยีเคลื่อนที่ในจีน แต่การใช้งานก็แตะระดับสูงสุดไปแล้วระหว่างที่การใช้งาน 5G ขยับขึ้นรวดเร็ว โดยภายในปี 2025 คาดการณ์ว่า การใช้งาน 4G จะคิดเป็น 53% ของการเชื่อมต่อทั้งหมดในจีน เมื่อเทียบกับ 47% ซึ่งจะเป็นการใช้งาน 5G
จากการสำรวจของสมาคมระบบการสื่อสารเคลื่อนที่โลกในปี 2020 พบว่า ผู้บริโภคชาวจีนกระตือรือร้นอัพเกรดอุปกรณ์เพื่อใช้งาน 5G มากกว่าประเทศอื่นในโลก โดย 62% ของคนจีน กระตือรือร้นใช้งาน 5G ในปีที่ผ่านมา และมากกว่า 85% ของผู้ใช้งาน 5G ในจีน เชื่อว่า บริการโทรคมนาคมของพวกเขาตรงความคาดหมายไปจนถึงเหนือความคาดหมาย
ปี 2020 จำนวนสมาร์ทโฟนที่ใช้งาน 5G มีสัดส่วนยอดขายถึง 163 ล้านเครื่องในจีน คิดเป็น 53% ของยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนรวม โดยสมาคมระบบการสื่อสารเคลื่อนที่โลก มองเห็นพัฒนาการเชิงบวกในตลาดอุปกรณ์มือถือที่มีขนาดใหญ่ของจีน ขณะที่ ภายในสิ้นปี 2020 มีประชากรจีนทั้งหมด 1,220 ล้านคน ลงทะเบียนใช้งานบริการอุปกรณ์เคลื่อนที่ เทียบเท่า 83% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้จีนเป็นประเทศที่ตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่มีการพัฒนามากที่สุด และมีผลทำให้ค่าเฉลี่ยจำนวนผู้ใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั่วโลกเพิ่มเป็น 66% โดยพบว่า คนจีนมากกว่า 990 ล้านคน มีการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ และตัวเลขนี้คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 200 ล้านคน ภายในปี 2025