BF Economic Research
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ (11-0) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Federal Funds Rate ไว้ที่ระดับต่ำ 0-0.25% และระบุเช่นเดิมว่าจะคงอยู่ที่ระดับดังกล่าวจนกว่าตลาดแรงงานจะอยู่ในระดับที่คณะกรรมการประเมินว่าเป็นระดับการจ้างงานเต็มอัตรา (Full Employment) และเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 2% และเกินระดับดังกล่าวพอสมควร (Exceed moderately) เป็นระยะเวลาหนึ่ง (For some time)
- สำหรับแนวโน้มของดอกเบี้ยหรือ Dot Plot ยังคงชี้ว่า เฟด จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวจนถึงสิ้นปี 2023 เป็นอย่างน้อย แต่ความเห็นของคณะกรรมการมีท่าทีที่ Hawkish มากขึ้น โดยคณะกรรมการ 7 ท่านจากทั้งหมด 18 ท่านที่มองว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือน ธ.ค. ที่มีคณะกรรมการ 5 จากทั้งหมด 17 ท่าน (นาย Christopher Waller เป็นคณะกรรมการ เฟด ที่เพิ่มเข้ามาในปลายเดือน ธ.ค.)
- ด้านการเข้าซื้อสินทรัพย์ เฟด ยังคงระบุเช่นเดิมว่า จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่อัตราปัจจุบัน USD120bn ต่อเดือน เป็นอย่างน้อย แบ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล (Treasury) เดือนละ USD 80bn และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ซึ่งออกโดยหน่วยงานภาครัฐ (MBS) เดือนละ USD 40bn โดยระบุจะเข้าซื้อจนกว่าจะเห็นพัฒนาการที่ชัดเจนว่าการจ้างงานจะกลับเข้าสู่ระดับที่คณะกรรมการประเมินว่าเป็นการจ้างงานเต็มอัตราและเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย
- แถลงการณ์ เฟด ระบุเครื่องชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนภาพมุมมองเศรษฐกิจที่ดูดีกว่าการประชุมครั้งก่อน ด้านสภาวะทางการเงินโดยรวมยังคงผ่อนคลาย สะท้อนผลดีจากมาตรการต่างๆ ที่ออกมาหนุนเศรษฐกิจและการปล่อยสินเชื่อสู่ภาคครัวเรือนและธุรกิจ
- ด้านประมาณการเศรษฐกิจ เฟด ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจขึ้นอย่างมีนัยยะเพื่อให้สอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน USD1.9trn ของปธน. Joe Biden ที่เพิ่งอนุมัติไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค. โดยปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2021F ขึ้นเป็น 6.5% จาก 4.2% ในคาดการณ์ครั้งก่อนเมื่อเดือน ธ.ค. และมองอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 4.5% ณ สิ้นปี 2021F (vs. 5.0% คาดการณ์ครั้งก่อน และ 6.2% ในเดือน ก.พ.;)
- ขณะที่เงินเฟ้อ เฟด คาดเงินเฟ้อ PCE จะขยายตัว 2.4% ในปี 2021F (vs. 1.8% คาดการณ์ครั้งก่อน) แต่มองว่าจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น โดย เฟด คาดเงินเฟ้อจะชะลอลงเป็น 2.0% ในปี 2022F และขยายตัว 2.1% ในปี 2023F ส่วนเงินเฟ้อ Core PCE คาดจะขยายตัว 2.2% ในปี 2021F (vs. 1.8% คาดการณ์ครั้งก่อน) และชะลอลงเป็น 2.0% ในปี 2022F
- Powell กล่าวว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนโทนของนโยบายการเงินตามตัวเลขคาดการณ์ แต่จะรอข้อมูลจริงเพื่อยืนยันว่าเศรษฐกิจกำลังดำเนินไปตามเป้าหมายก่อนที่จะเริ่มลดการผ่อนคลายทางการเงิน ทั้งยังเน้นย้ำว่าจะยัง “Wait-and-see” ไปก่อน
- สำหรับความเห็นต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะนี้ Powell กล่าวว่าการปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าธนาคารกลางจะขยับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ และไม่ใช่ปัจจัยกำหนดการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด เฟดยังคงยึดถือเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงานเป็นหลักเช่นเดิม