Highlight

• สถานการณ์เริ่มดีขึ้นในเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงพฤษภาคม จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาดี และบางบริษัทออกมาดีกว่าคาดการณ์ รวมทั้งประเด็นระหว่างภาครัฐกับบริษัทขนาดใหญ่ผ่อนคลายลง
• เพิ่มน้ำหนักหุ้นที่มีมูลค่าน่าสนใจแต่ราคาปรับลดลงจากการควบคุมดูแลของรัฐ เช่น BABA, Tencent, Meituan และเชื่อมั่นว่าหุ้นเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ละบริษัทจะปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจได้ในที่สุด
• ผู้จัดการกองทุนหลักมีมุมมองว่าภาครัฐต้องดำเนินนโยบายโดยรักษาสมดุลระหว่างสภาพคล่องที่เหมาะสมกับการดูแลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้การลดสภาพคล่องเหมือนต้นปีที่น่าจะไม่เกิดขึ้น

ภาพรวมตลาด 

• ปัจจัยลบที่กดดันตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังตรุษจีน คือ การที่ภาครัฐเข้ามาดูแลสภาพคล่อง การควบคุมการผูกขาด และนโยบายกำกับธุรกิจออนไลน์ เช่น  Tencent, Alibaba และ Meituan Dianping ทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
• อย่างไรก็ตามสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงพฤษภาคม จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ออกมาดี และบางบริษัทออกมาดีกว่าคาดการณ์ รวมทั้งประเด็นระหว่างภาครัฐกับบริษัทขนาดใหญ่ผ่อนคลายลง
• Caixin/Markit Manufacturing PMI ของประเทศจีนรายงานตัวเลขออกมาที่ระดับ 51.9  ตัวเลขเกิน 50 หมายถึงการขยายตัวและตัวเลขที่ออกมาเป็นตัวเลขที่สูงสุดตั้งแต่ปลายปี ค.ศ.2020 เช่นเดียวกับ PMI ฝั่งภาคบริการในเดือนเมษายน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 56.3 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในรอบ 4 เดือน
• ช่วงวันหยุดยาวในจีนตั้งแต่วันที่ 1-5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีตัวเลขออกมาว่าคนจีนมีการเดินทางมากกว่า 230 ล้านเที่ยว ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าก่อน Covid จะระบาดในปีค.ศ. 2020 แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง นำหน้าประเทศอื่นๆ

พอร์ตการลงทุน

• เพิ่มน้ำหนักหุ้นที่มีมูลค่าน่าสนใจแต่ราคาปรับลดลงจากการควบคุมดูแลของรัฐ เช่น BABA, Tencent, Meituan และเชื่อมั่นว่าหุ้นเหล่านี้จะให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ละบริษัทจะปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจได้ในที่สุด ซึ่งจะแตกต่างจากรูปแบบการทำธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็เพิ่มน้ำหนักในกลุ่มการเงิน และสินค้าจำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับ Sector Rotation ที่เกิดขึ้นในขณะนี้
• ผลการดำเนินงานของกองทุนดีกว่าดัชนีชี้วัดมาจากการคัดเลือกหุ้นที่ดี โดยหุ้นที่ทำผลตอบแทนให้แก่กองทุนเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ Shanxi Xingchuan Fen Wine ซึ่งมีพันธมิตรกับ China Resources เป็นบริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั้งประเทศ และ Contemporary Amperex Technology บริษัทพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก โดย ณ 31 พ.ค. 2564 ราคาหุ้น Shanxi Xingchuan Fen Wine +28% และ Contemporary Amperex Technology +7%  ตั้งแต่ต้นปี

มุมมองในอนาคต

ผู้จัดการกองทุนหลักมีมุมมองว่าภาครัฐต้องดำเนินนโยบายโดยรักษาสมดุลระหว่างสภาพคล่องที่เหมาะสมกับการดูแลเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้การลดสภาพคล่องเหมือนต้นปีน่าจะไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการขึ้นดอกเบี้ย แต่ภาครัฐอาจจะเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่สำคัญๆ เช่น Private Sector, Sustainability และ Domestic Innovation ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่า

ผลการดำเนินงานของกองทุน ณ 31 พฤษภาคม 2564

สัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ 30 เมษายน 2564

ทำไมกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) จึงน่าสนใจลงทุน

• ปัจจุบันจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกของจากสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าจะจีนแซงสหรัฐภายในปี ค.ศ. 2028 ตลาดหุ้นจีน A Share จะเป็นตลาดที่จะได้ผลประโยชน์จากการเติบโตนี้ในระยะยาวนี้
• MSCI เพิ่มนํ้าหนักการลงทุนในตลาดจีน A Share เข้าในดัชนี Emerging Markets ดังนั้นตลาดหุ้นจีนจะมีความสำคัญมากขึ้นในดัชนีหุ้นโลก
• กองทุนให้ความสำคัญกับการเติบโตในประเทศจีนจึงแสวงหาบริษัทจีนที่ได้ผลบวกจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
  • ผลบวกจากนโยบายภายในประเทศ
  • ผลบวกจากการเติบโตของผู้บริโภคในจีน
  • บริษัทที่เติบโตด้วยนวัตกรรมและ Technology ใหม่ๆ ของจีน

Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้ ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต