สรุปความสัมภาษณ์

เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP^®

ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน

ปัจจุบันมีกองทุนรวมใหม่ๆ ออกมานำเสนอกับผู้ลงทุนจำนวนมาก ซึ่งกองทุนบัวหลวงก็มีกองทุนตาม Theme อนาคตให้เลือกหลากหลาย วันนี้จึงขอรวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบแต่ละกองทุนให้เห็นภาพว่ามีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

สำหรับ Theme การลงทุนใหม่ๆ ส่วนมากล้วนเกิดขึ้นมาจากรากฐานเดียวกันคือ “เทคโนโลยี” เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน การทำธุรกิจ หรือการลงทุน โดยเทคโนโลยีทำให้เกิดพฤติกรรมใหม่และโอกาสใหม่ที่มาพร้อมกับความท้าทายที่ทำให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว ซึ่งเมื่อพูดถึงโอกาสทางธุรกิจก็จะพบว่า มีบริษัทหรือแนวคิดมากมายที่เกิดขึ้นและถูกต่อยอดเป็นโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่มาจากเทคโนโลยี ทำให้เกิด Theme การลงทุนต่างๆ ในกองทุนรวมที่มีให้เลือกหลากหลาย

• Theme สุขภาพ

เริ่มกันที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับนวัตกรรมการแพทย์ ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจเฮลธ์แคร์และขยายโอกาสการลงทุนใน Theme สุขภาพ ซึ่งกองทุนบัวหลวงก็มี กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE)  ที่ไปลงทุนในต่างประเทศกองแรกของกองทุนบัวหลวงที่ตั้งขึ้นมาในยุคที่มองว่าเรื่องการดูแลสุขภาพหรือเฮลธ์แคร์จะเป็นเมกะเทรนด์ของโลก เดิมกลุ่มสุขภาพมี 4 กลุ่มย่อยหลักๆ ได้แก่ Pharmacy คือ กิจการร้านขายยา Bio Technology หรือเทคโนโลยีชีวภาพที่เกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัยใหม่ๆ Equipment เกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ และ Service สถานบริการ เช่น โรงพยาบาล ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้เกิดการค้นคว้าวิจัยยา เครื่องมือทางการแพทย์ และวิธีการรักษาโรคใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้ในธุรกิจการดูแลสุขภาพเกิดการควบรวมธุรกิจ โดยบริษัทยาขนาดใหญ่ที่สิทธิบัตรยาใกล้หมดอายุ ก็ไปเล็งหาบริษัท Bio Technology ขนาดเล็กและขนาดกลาง ว่ามีบริษัทใดที่น่าจะค้นคว้าวิจัยยาได้ดี และยาน่าจะได้รับอนุมัติออกมาจำหน่าย นำไปสู่การแบ่งกลุ่มธุรกิจใหม่ กลายเป็นกลุ่ม BioPharma แต่ว่าแยกตามขนาด เป็นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก

เราจะพบว่าในกลุ่มเฮลธ์แคร์ ปัจจุบันการค้นคว้าวิจัยมีผลเยอะมาก อีกทั้งยาใหม่ๆ วิธีการรักษาใหม่ ลงลึกไปถึงระดับยีนส์หรือโครโมโซม ซึ่งจะทำให้โรคที่ไม่เคยรักษาได้ หรือโรคที่มีต้นทุนการรักษาสูง หลังจากนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของเทคโนโลยีที่เข้ามาในธุรกิจเฮลธ์แคร์

• Theme ความยั่งยืน

เมื่อกล่าวถึงเรื่องความยั่งยืน ก็เป็นกระแสด้านบวกที่ทุกคนพร้อมทำและสนับสนุน หากไม่กินเวลาหรือต้นทุนไม่สูงเกินไป ซึ่งเทคโนโลยีก็เข้ามาช่วยผลักดันทำให้ต้นทุนลดลง ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำลงมาก ทำให้เกิดโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ อีกทั้งยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ เช่น บริษัทที่สามารถออกแบบซอฟต์แวร์ต่างๆ แบบจำลอง หรือการการสร้างตึกเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งคนทั่วโลกล้วนยอมรับในสิ่งเหล่านี้ และยังมีประเด็นที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ สนับสนุนการลดใช้พลังงานฟอสซิลในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา หรือแม้แต่จีนเองก็มีนโยบายนี้ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นโอกาสการลงทุนในเรื่องความยั่งยืน ซึ่งอยู่ใน กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน (B-SIP)

• Theme นวัตกรรมที่เข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิตของคนทั่วโลกและเป็นเทรนด์อนาคต

กองทุนบัวหลวง มีกองทุนอยู่ใน Theme กลุ่มนี้ กองทุนแรกคือ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) ซึ่งจะไม่ได้ลงทุนในกองทุนหลักใดเพียงกองเดียว แต่จะไปเลือกลงทุนผ่านกองทุนหรือหุ้นรายตัวที่มีแนวคิดเกี่ยวกับโลกยุคใหม่ วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ เช่นเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก็มีการไปเลือกลงทุนผ่านกองทุนที่เกี่ยวกับ AI ต่อมาก็คือการเลือกกองทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือธุรกิจต่างๆ ล้วนต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการเงินทั้งสิ้น รวมทั้งการลงทุนในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของชาวจีน เนื่องจากประเทศจีนมีการยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมาแตกต่างจากในอดีต

ถัดจากกองทุนนี้ ก็จะไปต่อกันที่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) ที่กองทุนบัวหลวงจัดตั้งขึ้นมาเพราะมองเห็นโอกาสการเติบโตและความยิ่งใหญ่ของจีนในอนาคต ซึ่งกองทุนนี้สามารถลงทุนในตลาดจีน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้น ที่เรียกว่า A-Share ตลาดหุ้นฮ่องกง หรือที่เรียกว่า H-Share หรืออาจจะไปลงทุนหุ้นจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในตลาดแนสแด็กก็ได้ เรียกว่าเป็นกองทุนที่ลงทุนแบบ All China ลงทุนหุ้นจีนได้หลากหลาย

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุน B-CHINE-EQ สามารถเลือกลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนรวมก็ได้ ลงทุนหุ้นจีนรายตัวไปเลยก็ได้ โดยมี Allianz Global Investors Asia Pacific Limited (AGI) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำและมีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในจีน มาทำหน้าที่เป็น Outsource Fund Manager ให้ หรือที่เรียกว่าผู้รับดำเนินการลงทุนในต่างประเทศ

สำหรับอีกกองทุนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับโลกยุคใหม่โดยการใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะหลายบริษัทรู้จักนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ แล้วสร้างนวัตกรรมใหม่ในการทำธุรกิจหรือมาสนับสนุนธุรกิจ กองทุนบัวหลวงก็จะมีอีกกองทุนหนึ่งที่มีลักษณะการลงทุนที่กระจายครอบคลุมในหลายธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภค บริโภค เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคน คือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ (B-GTO) 

• Theme เทคโนโลยีที่เป็นรากฐาน

หลายคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อของกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) ซึ่งเป็นกองทุน Theme เทคโนโลยีของกองทุนบัวหลวง และอาจจะสงสัยว่า กองทุนนี้แตกต่างอย่างไรจากกองทุนอย่าง B-FUTURE หรือ B-GTO

หากไปดูที่ B-FUTURE จะพบว่า หลายบริษัทไม่ได้เป็นบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง แต่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ หรือ B-GTO ก็มีหลายบริษัทที่เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการทั่วไป เช่น บริษัทขายไก่ทอด บริษัทอี-คอมเมิร์ซในอเมริกาใต้ หรือว่าจะเป็น Match Group บริษัทดำเนินธุรกิจหาคู่ เจ้าของ Tinder เป็นต้น แต่ B-INNOTECH จะมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกิจเป็นหลัก หรือว่าจะเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานในการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่สนับสนุนเครือข่าย 5G หรือ คลาวด์คอมพิวติ้ง หรือเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งสำคัญมากไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีด้านใดก็ตาม หรืออาจจะเป็นบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนทั่วไปแต่เป็นธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจหลักในการทำธุรกิจ เช่น บุ๊คกิ้งดอทคอม หรืออูเบอร์ ซึ่งก็จะเป็นบริษัทที่เกิดขึ้นมาโดยการมีเทคโนโลยีของตัวเองเลย ไม่ใช่การนำเทคโนโลยีมาต่อยอดกิจการที่มีอยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจลักษณะนี้นี่เองอยู่ในขอบข่ายที่ B-INNOTECH จะลงทุนได้

หากไม่แน่ใจว่าในช่วงนั้นจะลงทุน Theme ไหนดี B-INNOTECH ก็ถือเป็นรากฐานการลงทุน Theme เทคโนโลยีที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจและชื่นชอบเทคโนโลยีสามารถเข้ามาลงทุน Theme นี้ได้

• Theme เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech)

ล่าสุดกองทุนบัวหลวง เพิ่งเสนอขาย IPO กองทุนเปิดบัวหลวงฟินเทค (B-FINTECH) ไปเมื่อวันที่ 10-16 มิ.ย. 2564 ซึ่งกองทุนนี้ลงทุนใน Theme เทคโนโลยีทางการเงิน ก็มีนักลงทุนบางท่านสงสัยว่ากองทุน B-FINTECH จะมีการลงทุนแตกต่างอย่างไรจาก B-FUTURE ซึ่งก็มีการลงทุนใน Fintech ด้วย

ในเรื่องนี้ ให้นักลงทุนดูที่เจตนาของการจัดตั้งกองทุน สำหรับคนที่สนใจลงทุนเพื่อเติบโตไปกับโลกยุคใหม่ พฤติกรรมใหม่ๆ เทรนด์ใหม่ๆ ก็เลือก B-FUTURE เพราะมีความหลากหลาย โดยที่มี fintech เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่เข้าไปลงทุน

แต่ถ้ามองว่า fintech น่าสนใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา โอนเงิน จ่ายเงิน ก็สามารถทำได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่ต้องไปสาขาธนาคาร หรือการใช้บัตรเครดิต ซึ่งแม้บัตรเครดิตจะเป็นเทคโนโลยีในอดีตที่เคยใหม่ในยุคหนึ่ง แต่ยังเป็นเทคโนโลยีการเงินที่สามารถต่อยอดและมีผลมากในอนาคต นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน หรือการทำประกัน ที่ทำให้เราสามารถทำธุรกรรมเหล่านี้ผ่านระบบได้ จึงเป็นโอกาสของการลงทุนใน fintech