McKinsey นำเสนอรายงานว่า การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีนยังไม่สม่ำเสมอ โดยตลาดในประเทศหยุดชะงักไปและกลับมาอยู่ในระดับการเติบโตก่อนเกิดโควิดแล้ว แต่การเดินทางไปต่างประเทศของคนจีนยังจำกัดและยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวที่มีความหมายจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าการเดินทางไปต่างประเทศจะยังคงเงียบต่อไปอีก 12-18 เดือนข้างหน้า แปลว่าบริษัทท่องเที่ยวต้องเพิ่มโอกาสให้ตัวเองจากตลาดการเดินทางในประเทศเป็นสำคัญ
นักเดินทางชาวจีนกำลังมองหาประสบการณ์จากจุดหมายในท้องถิ่นและข้อเสนอการท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น นักเดินทางระดับไฮเอนด์ที่เคยมีความต้องการเดินทางต่างประเทศที่กลับมาเดินทางในประเทศ โดยพบความต้องการอย่างมีนัยสำคัญในกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงข้อเสนอที่หรูหราแทนแพ็กเกจทัวร์รูปแบบเดิมๆ ขณะที่บริษัทท่องเที่ยวก็ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปตามแนวทางนี้เพื่อรับความต้องการในประเทศ
สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจีนเป็นผู้นำการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาด โดยพบว่า การท่องเที่ยวฟื้นตัวจนผ่านจุดสูงสุดในปี 2019 มาแล้ว บริษัทท่องเที่ยวยังคงปรับปรุงความสามารถในการรองรับและข้อเสนอเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการได้ ขณะที่อนาคตกลุ่มนี้ค่อนข้างสดใส โดยความต้องการเดินทางที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดวันชาติจีนเดือน พ.ค. มีตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์หลายราย ชี้ว่า การท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มที่ดีมาตั้งแต่เดือน เม.ย. และ พ.ค. สะท้อนการฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ ของการเดินทางไกลข้ามจังหวัด
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยวในประเทศของจีน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของภาครัฐต่อการระบาดของโควิด ซึ่งอาจทำให้การเดินทางหยุดชะงักบางครั้ง เช่น เดือน ม.ค. 2021 ที่มีผู้ติดเชื้อในเหอเป่ย รัฐบาลออกคำแนะนำการเดินทาง มีผลต่อการเดินทางช่วงตรุษจีน ยอดผู้โดยสารผ่านทางอากาศและทางราง ลดลง 40% เมื่อเทียบการเดินทางก่อนโควิด และคล้ายๆ กัน เดือน มิ.ย. 2021 มีการระบาดในกวางตุ้ง กระทบการท่องเที่ยวในพื้นที่ชัดเจน อัตราเข้าพักโรงแรมในกวางโจวและเซินเจิ้น ลดลง 75% ช่วงกลางเดือน มิ.ย. ส่วนอัตราโดยสารบนเครื่องบินไปภูมิภาคนี้ลดลง 50%
โดยรวมแล้ว ผู้บริโภคจีนอาจต้องการไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เมื่อไปไม่ได้ก็เดินทางในประเทศแทน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ เป็นโอกาสกับจุดหมายท่องเที่ยวใหม่ การเปิดประสบการณ์แบบใหม่ และแนวทางใหม่ๆ ที่จะเข้าถึงลูกค้า