China Daily รายงานว่า สถาบันการท่องเที่ยวจีนจัดทำรายงานฉบับล่าสุดออกมาชี้ว่า คนจีนใช้เวลามากขึ้นกับกิจกรรมยามว่างในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า เวลาว่างของผู้ที่พักอาศัยอยู่ในย่านเมืองสัมพันธ์กันใกล้ชิดกับงานของพวกเขา โดยพวกเขาใช้เวลามากขึ้นกับกิจกรรมยามว่างในช่วงสุดสัปดาห์ของปีนี้ หรือใช้เวลาประมาณ 4.4 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ค่าเฉลี่ยการใช้เวลาว่างในช่วงวันทำงานจะอยู่ที่ 3.82 ชั่วโมงต่อวัน
รายงานชี้ว่า เวลาว่างของผู้ที่พักอาศัยในเมืองเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และระหว่างวันหยุดเทศกาลต่างๆ ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยเวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 0.91 ชั่วโมง และเพิ่มขึ้น 0.64 ชั่วโมงสำหรับวันหยุดเทศกาล
สำหรับเวลาที่คนที่อาศัยในย่านชนบทใช้ไปกับกิจกรรมยามว่างเพิ่มขึ้นเกือบ 39% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยใช้เวลาเพิ่มขึ้น 4.36 ชั่วโมงต่อวัน จาก 3.14 ชั่วโมง ก่อนเกิดโควิดระบาด
ส่วนกิจกรรมยอดนิยมที่สุดในวันว่างทั้งคนที่พักในเมืองและพักในชนบทคือ การชอปปิงที่ร้านค้าจริง ตามด้วยกิจกรรมอื่นๆ เช่น การทรีตเมนต์ใบหน้า ทำผม และทำเล็บ
รายงาน ชี้ว่า คงเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มเวลาว่างของคนในอนาคต เพราะเวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาใช้ไปกับการทำงานและการดูแลเด็กๆ
ผลสำรวจล่าสุดของสถาบัน ยังสะท้อนว่า 50% ของคนที่อาศัยในเมืองทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และ 15% ทำงานมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน
Dai Bin ประธานสถาบันการท่องเที่ยวจีน กล่าวผ่านการประชุมออนไลน์ว่า คนที่อยู่ในชนบทจำนวนมากขึ้นใช้เวลากับกิจกรรมยามว่าง เป็นผลจากนโยบายของประเทศที่ทำให้คนในชนบทมีชีวิตชีวาขึ้น ซึ่งก็ทำให้ตลาดการท่องเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวมีโอกาสเติบโตใหม่ ในอนาคต