เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บรรดาบริษัทเอกชนในประเทศญี่ปุ่นต่างดำเนินมาตรการต่างๆ เท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็น การปิดสำนักงานหรือหยุดการผลิตชั่วคราว หรือห้ามพนักงานห้ามคุยกันในช่วงพักรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อต่อสู้กับคลื่นระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่ ที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งขึ้นมากกว่า 1.4 ล้านราย
ขณะที่ในวันพุธ (3 ส.ค.) ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในหนึ่งวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 250,000 ราย ผลจากการแผลงฤทธิ์ของไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย บีเอ.4 และ บีเอ.5 ที่ครองโลกอยู่ในเวลานี้ถาโถมเข้ามากระหน่ำญี่ปุ่น ส่งผลให้ภาคธุรกิจญี่ปุ่นต้องประสบภาวะดิสรัปชั่น
เมื่อสัปดาห์ก่อน ค่ายผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ อย่าง โตโยต้า มอเตอร์ และ ไดฮัทสุ มอเตอร์ ได้หยุดการผลิต เนื่องจากพนักงานติดเชื้อโควิด ขณะที่บริษัท เคเอฟซี โฮลดิ้งส์ ญี่ปุ่น ได้ปิดร้านบางสาขาและปรับโยกกำลังพนักงาน ส่วนบริษัทไปรษณีย์ญี่ปุ่นก็ได้ปิดศูนย์ไปรษณีย์ที่มีกว่า 200 แห่งลงชั่วคราวเช่นกันในการต่อสู้กับโควิด
คัตสึยูกิ มิซูมะ โฆษกของค่ายรถซูบารุ คอร์ป เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า บริษัทมีมาตรการแบ่งช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันออกเป็นช่วงๆ และให้พนักงานนั่งหันไปในทางเดียวและไม่ให้พูดคุยกัน ในความพยายามป้องกันการระบาดของโรคโควิดและทำให้ต้องหยุดการทำงาน
ไม่เพียงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศญี่ปุ่นที่พุ่งสูงขึ้นมาก แต่จำนวนการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิตได้เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน แต่ไม่รุนแรงมากเมื่อเทียบกับการระบาดรอบก่อนๆ เนื่องจากการฉีดวัคซีนป้องกันและการฉีดเข็มกระตุ้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากร 125.8 ล้านคน มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 13.59 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 33,159 ราย
ที่มา: รอยเตอร์