การท่องเที่ยวภายในประเทศของจีนกำลังฟื้นตัว หลังจากร่วงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ในช่วงที่ประเทศประกาศใช้มาตรการบังคับและจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวด เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

นักวิเคราะห์จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) กล่าวว่า หลังจากที่นครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้าระดับโลก ประกาศคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง และเปิดเมืองอีกครั้ง ยอดจองที่พักในวันหยุดพุ่งขึ้นอย่างมาก เป็นสัญญาณว่าการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี

รายได้ภาคการท่องเที่ยว และตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมนี้ แตะระดับต่ำสุดในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งลดลงเกือบครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ฟลอรา จู และ เจนนี หวง นักวิเคราะห์จากฟิทช์ เรทติ้งส์ มองว่า การที่จีนผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อื่นๆ นั้น ช่วยกระตุ้นให้ความต้องการในการท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น แม้การแพร่ระบาดจะยังคงอยู่

การฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในภาคการท่องเที่ยว ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากรายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็นประมาณร้อยละ 11 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และคิดเป็นร้อยละ 10 ของการจ้างงานในประเทศในปี 2562 หรือก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส

หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการบังคับและจำกัดการเดินทางในหลายๆ เมือง เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 62 ในเดือนกรกฎาคม และจากข้อมูลจากบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ เช่น Tuniu Corporation แสดงให้เห็นว่า ยอดจองที่พักได้พุ่งขึ้นมากกว่าร้อยละ 112 ในเดือนกรกฎาคม

ในเดือนกรกฎาคม จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในนครซินเจียงทั้ง 5 ที่พุ่งสูงขึ้นเป็น 110,000 รายต่อวัน เทียบกับ 19,000 รายต่อวันในเดือนพฤษภาคม ขณะที่เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 6.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2562

ขณะเดียวกันการระบาดระลอกใหม่ในเมืองไห่หนาน ซินเจียง และทิเบต ถูกคาดการณ์ว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากมีนักเดินทางไปเมืองดังกล่าวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ในจีน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะมีทิศทางที่แข็งแกร่ง แต่เป็นการฟื้นตัวที่ค่อนข้างกระจุกตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเลือกการเดินทางในระยะทางสั้น มากกว่าการเดินทางไกล โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า จากการสำรวจ พบว่า บรรดานักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมการเดินทางในภูมิภาคที่ตนอาศัยอยู่ และไม่ต้องการใช้เวลาเดินทางนาน ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19

การแพร่ระบาดครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการท่องเที่ยวภายในประเทศของจีน ที่ปรึกษาทางธุรกิจของไชน่า บรีฟฟิง (China Briefing) ระบุ โดยการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะลดความนิยมลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนหันไปพักผ่อนกับครอบครัว หรือเลือกการท่องเที่ยวที่เน้นด้านการดูแลสุขภาพ

ขณะที่ ซีทริป (CTrip) บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ข้ามชาติของจีน กล่าวในรายงานการท่องเที่ยวภาคฤดูร้อนเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า “การเดินทางแบบพ่อแม่ลูก” หรือการเดินทางแบบครอบครัว ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ

ที่มา : ซีเอ็นบีซี