INVESTMENT STRATEGY

By  BBLAM

BBLAM เพิ่มหุ้นจีนเป็น Slightly overweight (โปรดดู VDO Clip เพื่อชมเนื้อหาโดยละเอียด) หลังจากที่เห็นทิศทางนโยบาย Zero Covid จะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และมาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจีนมีมาตรการการช่วยเหลือ ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงตอนนี้ รวมๆ กันจะมากกว่า 1 ล้านล้านหยวนแล้ว มีตั้งแต่ให้ธนาคารปล่อยกู้หนึ่งแสนล้านหยวนให้กับการควบรวมบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอกชนที่มีปัญหา อีกสองแสนล้านหยวนให้ธนาคารธนาคารรัฐวิสาหกิจปล่อยกู้ให้โครงการที่มีปัญหา เดือนกันยายนก็ให้ธนาคารรัฐวิสาหกิจปล่อยกู้ให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่า จีนพยายามอัดสภาพคล่องเข้าไปในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ไม่เกิดลุกลามเป็นวงกว้างให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จีนออกอีก 5 มาตรการเพื่อผ่อนคลายมากขึ้น เช่น  อนุญาตให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์สามารถทำ M&A ได้หรือสามารถออกหุ้นเพิ่มเพื่อระดมทุนได้ ซึ่งตอนแรก ก.ล.ต. จีนมีคำสั่งห้ามไม่ให้ระดมทุนผ่านการออกหุ้นเพิ่ม ตอนนี้ก็สามารถขายหุ้นเพื่อระดมทุนได้แล้ว

สองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดของจีนแล้ว ทีนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ใช้ดูหุ้นจีน ซึ่งจะแตกต่างจากหุ้นประเทศอื่นๆ BBLAM ให้น้ำหนักกับนโยบายค่อนข้างมาก พอมาไล่เลียงนโยบายอื่นๆ จะเห็นว่า ข่าวเป็นไปในทิศทางบวกมากขึ้น เช่น 

• เรื่องการถูกถอดหุ้นออกจากตลาดหุ้นจีนเป็นเรื่องที่นักลงทุนกังวลมาก แต่ตอนนี้มีพัฒนาการในทางบวก ถ้าดูในสไลด์จะเห็นว่า การค้นหาคำที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับนโยบายของบริษัทเอกชนจีน ดูเริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
• เรื่องสภาพคล่อง และนโยบายการเงินอยู่ในด้านผ่อนคลาย 
• เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและจีน สี จิ้นผิงพูดว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับอเมริกา หาวิธีเพื่อจะ get along ในยุคใหม่ที่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน และต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพยายามวิธีที่เป็นบวกทั้งสองฝ่าย  win win
• เรื่องต่อเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างภูมิรัฐศาสตร์ก็คือ เรื่องการกีดกันด้านเทคโนโลยี สหรัฐฯ มีกฏหมายที่ชื่อ Competes Act ซึ่งระบุ ห้ามไม่ให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมที่ต้องมีการลงทุนในพวกวิจัย และพัฒนาเยอะๆ ไปลงทุนในประเทศที่น่ากังวล นั่นก็คือ จีน ซึ่งครอบคลุมถึง Semiconductor, Industrial, Healthcare ทำให้จีนต้องพยายามพัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้พึ่งพาตัวเองให้ได้ 
• เรื่องสุดท้ายที่เป็นเรื่องเศรษฐกิจจริงๆ คือ เรื่องเงินเฟ้อ ซึ่งเงินเฟ้อของจีนไม่ได้สูงมากนัก

BBLAM มองว่า ขาลงยังมีความเสี่ยงแต่เริ่มจำกัด ขาขึ้นอยู่ที่นโยบาย Zero covid policy ดังนั้น เรายังควรมีหุ้นจีนในพอร์ต แต่จะซื้อเพิ่มตอนนี้เลยไหม ก็คิดว่า ถ้าเรารอนโยบายโควิดให้มีความชัดเจนว่า จีนจะทำยังไงต่อ ก็ไม่สาย BBLAM มองว่า  Asset allocation ในรอบนี้คือ พันธบัตรดีกว่าหุ้น แต่ถ้ามองในมุมหุ้น จีนจะขึ้นก่อนอเมริกา

รู้จัก B-CHINE-EQ

กองทุน B-CHINE-EQ คือ กองทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนหลายตลาด เช่น A-Shares, H-Shares, ADR, ลงทุนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อเมริกา หรือแม้แต่บริษัทจีนที่อยู่ในไต้หวัน ก็ลงทุนได้ ด้วยความที่กองทุนลงทุนได้หลายตลาด ทำให้กองมีความยืดหยุ่น เพราะถ้าในช่วงไหนที่หุ้นจีนในฮ่องกงมูลค่าน่าสนใจ ก็จะทำให้เราสามารถเข้าไปลงทุนเพิ่มได้ หรือช่วงไหนที่  A-Shares มีมูลค่าที่สูง ห่างจากหุ้นอื่นๆ เช่น ADR มากๆ ก็สามารถปรับลดสัดส่วนได้ 

มองไปข้างหน้า หากจีนมีปัจจัยหนุนมากขึ้นที่จะมาจากผ่อนคลายมาตรการโควิด B-CHINE-EQ ก็จะเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างปลอดภัยเทียบกับกองจีนอื่นๆ หรือใครที่มีหุ้นจีนอยู่แล้ว อยากจะซื้อเพิ่มเพื่อถั่วเฉลี่ยต้นทุน เพราะราคาหุ้นอยู่ในโซนล่าง ก็คือ กองทุน B-CHINE-EQ จะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ได้อยากเสี่ยงเกินไป หรือไม่อยากจะ concentrate ในตลาดไหนเป็นพิเศษ หรือ sector ไหนของจีนเป็นพิเศษ

ตอนนี้ตลาดจีนค่อนข้างที่คิดไปในทิศทางที่มองว่า รัฐบาลน่าจะยกเลิกนโยบาย zero covid จะเห็นว่า พวกหุ้นที่เป็นพวก consumer, การเปิดเมือง ปรับขึ้นหมดเลย การประท้วงเริ่มวันจันทร์ ตลาดลงแต่พวก consumer ปรับตัวขึ้นได้ ส่วนพวกหุ้นจีนที่ list ในอเมริกา เช่น baba ก็ไม่ลงเลย ตลาดเดาว่า จีนน่าจะผ่อนคลายนโยบายนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตรงนี้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก คิดว่า รอให้มีนโยบายออกมา ซื้อก็ยังไม่สาย 

นโยบายการลงทุนของ B-CHINE-EQ และจุดเด่น

นโยบายการลงทุนก็คือ อย่างน้อย 80% BBLAM ไปลงทุนในกองทุน Allianz China A-shares และ Allianz All China นอกจากนี้ยังมีสัดส่วน 20% ที่ BBLAM ลงทุนหุ้นจีนตรง  เช่น  ถ้า BBLAM เห็นโอกาสในธุรกิจไหนเป็นพิเศษก็จะมีการเพิ่มหุ้นเหล่านี้เข้าไป เช่น หุ้นเหล้าสองตัวที่มีในจีน Moutai กับ Wuliangye Yibin ถ้ามูลค่าของ Wuliangye ถูกกว่า น่าสนใจกว่าหุ้นเหล้าอีกตัว เราก็สามารถเข้าไปซื้อ Wuliangye ได้ ถ้ากองทุนต่างประเทศที่ไปลงทุนยังไม่มี นอกจากนี้ BBLAM ยังถือหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคจีน เช่น BABA, JD และ Anta Sport ผู้ผลิตรองเท้า เสื้อผ้ากีฬาของจีน ซึ่งมองว่า หากจีนเปิดเมือง พวก e-commerce กลุ่มเสื้อผ้ากีฬา อย่าง Anta Sport ก็จะสามารถ rebound กลับมาได้ โดยเฉพาะที่ตอนนี้สินค้าที่สต็อกไว้เริ่มลดลงแล้ว ถ้าค่อยๆ เปิดเมืองได้จริง ยอดขายกลับมา ร้านค้าก็ต้องกลับมาเพิ่มสินค้าคงคลังอีก

JD.com เป็นหุ้นที่อีกตัวที่ BBLAM ให้ความสนใจ งบไตรมาสล่าสุด จำนวน Annual active user ก็ยังเพิ่มได้ดี รายได้ออกมาเท่า ๆ กับที่คาด แต่กำไรดีกว่าคาด เพราะควบคุมต้นทุนได้ดี และลดการลงทุน รายได้จากส่วนที่เป็นแบรนด์ร้านค้ามาเปิดช็อปใน application ก็เพิ่มขึ้น JD Logistic เริ่มมีกำไรแล้ว ทิศทางกำไรของ JD คาดว่าน่าจะยังดีขึ้นต่อเนื่อง

ข้างต้นนี้คือ ส่วนการเลือกหุ้นตรงที่กองทุน B-CHINE-EQ ลงทุน โดย BBLAM มีทีม research หุ้นต่างประเทศ support อยู่ 

ลงทุนหุ้นจีน กับ BBLAM (เลือกที่ชื่อกองเพื่อลงทุนได้เลย)

ลงทุน กองทุน B-CHINE-EQ หรือต้องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี กับ กองทุน B-CHINAARMF และ กองทุน B-CHINESSF

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/6-9-2022