ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ในปีนี้ ด้วยอัตรา 0.5% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มถึงปีหน้าเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่ประเทศจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม
ธนาคารกลางฯ คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 5.1% ในปี 2566 ซึ่งมากกว่าที่นักลงทุนและตลาดคาดการณ์ไว้ และค่อนข้างไม่เห็นด้วย หากอัตราดอกเบี้ยจะขยับถึงระดับนั้น โดยก่อนหน้านี้ ตลาดมองว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดที่ 4.6%
ด้านเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางฯ ส่วนใหญ่ก็ประเมินว่า ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะสูงถึงระดับดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่เพียง 2 คนจาก 19 คนเท่านั้นที่คาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5.0% ในปีหน้า อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางฯ ได้ส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยยังมีความจำเป็นอยู่ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี
ธนาคารกลางฯ ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในกรอบเป้าหมาย มีความเหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% ตามที่ธนาคารฯ กำหนดไว้
ตั้งแต่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธนาคารกลางสหรัฐได้ทำการลดอัตราดอกเบี้ยลงจนมาอยู่ที่ระดับใกล้ 0.0% และต่อมาได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และยับยั้งปัญหาเงินเฟ้อ โดยในช่วงแรก ธนาคารกลางฯ ตั้งเป้าหมายให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายกลับมาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งถือเป็นดอกเบี้ยที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550
ที่มา: รอยเตอร์