จีนเตรียมระงับการลงทุนก้อนใหญ่ในการสร้างอุตสาหกรรมชิป เพื่อแข่งขันกับสหรัฐฯ หลังประเทศกำลังเจอการระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ พร้อมจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มที่จะบั่นทอนระบบเศรษฐกิจและสถานะทางการเงินของประเทศ
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกำลังหารือถึงวิธีการอื่น ๆ ในการส่งเสริมผู้ผลิตชิปจีนแทนที่การให้เงินอุดหนุน เนื่องจากใช้งบประมาณเยอะ และจนถึงขณะนี้ยังแทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ซ้ำยังกระตุ้นให้เกิดการรับสินบนและเสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ อีกด้วย
แหล่งข่าว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนหนึ่งกำลังพยายามผลักดันมาตรการทุ่มเม็ดเงินจูงใจสูงถึง 1 ล้านล้านหยวน (หรือประมาณ 4.95 ล้านล้านบาท) ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า วิธีการที่รัฐเข้าไปลงทุนพร้อมเงินก้อนโตจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดการณ์ไว้ และพวกเขากำลังพิจารณาวิธีการอื่นๆ ในการสนับสนุนผู้ผลิตชิปจีนแทน เช่น การลดต้นทุนของวัสดุประเภทเซมิคอนดักเตอร์ อันเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตชิป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีของจีนในการแข่งขันกับสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลปักกิ่งมองว่า ชิปเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการท้าทายสหรัฐฯ เนื่องด้วยสหรัฐฯ ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดชิปโลกมาก่อน อีกทั้งยังช่วยปกป้องเศรษฐกิจของประเทศและความสามารถในการแข่งขันด้านการทหารของจีนอีกด้วย
อย่างไรก็ดี นี่ก็สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญภาวะถดถอย ทำให้ต้องลดความทะเยอทะยานในการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปเพื่อไปแข่งขันกับสหรัฐฯ ลง ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นนโยบายหลักของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และหันไปเพิ่มงบประมาณในด้านที่สำคัญอื่นๆ แทน ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมไปจนถึงการป้องกันประเทศ
ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณานโยบายชิปใดบ้าง หรือท้ายที่สุดจีนจะยกเลิกการทุ่มการลงทุนมหาศาลเพื่อหนุนภาคการผลิตที่ทำมาตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาหรือไม่ หรือรัฐบาลจีนอาจพิจารณาย้ายงบประมาณบางส่วนจากภาคส่วนอื่นมาเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปแทน
การหารือนี้ถือว่าตรงกันข้ามกับความพยายามก่อนหน้านี้ของรัฐบาลปักกิ่งในการทุ่มทรัพยากรและงบประมาณก้อนโตในอุตสาหกรรมชิป รวมถึงการจัดตั้งกองทุนรวมการลงทุนอุตสาหกรรมวงจรรวมแห่งชาติจีนในปี 2557
นอกจากนี้ ยังมีความไม่พอใจจากประธานาธิบดีสี และรู้สึกผิดหวังที่เงินอุดหนุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ที่หลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความก้าวหน้าที่ทำให้จีนสามารถแข่งขันกับสหรัฐฯ ได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้นโดยในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลสั่งให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับการทุจริตติดสินบนในแวดวงอุตสาหกรรมชิป โดยกล่าวว่า การคอร์รัปชันจะทำให้การลงทุนสูญเปล่าและไม่มีประสิทธิภาพ
ถึงแม้จีนจะพยายามพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวเพื่อขึ้นมาแข่งขันกับสหรัฐฯ แต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีบางอย่างจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอยู่ ทำให้ประธานาธิบดีสีต้องเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้จีนพึ่งพาตัวเองในอุตสาหกรรมชิปให้ได้ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังพยายามโดดเดี่ยวประเทศจีน
หลังนายสีได้รับตำแหน่งผู้นำประเทศสมัยที่ 3 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้ให้คำมั่นว่าจะเร่งออกนโยบายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี และเพื่อความแข็งแกร่งให้กับประเทศในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
อย่างไรก็ดี ถึงแม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนจะต้องการเพิ่มแรงจูงใจให้กับบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ แต่อีกส่วนก็มองว่ารัฐบาลคงจะไม่มีงบประมาณมากพอมาทุ่มการลงทุนนี้ได้ เนื่องจากรัฐบาลได้ใช้เงินจำนวนมากไปกับการต่อสู้กับโควิด-19 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ที่มา: บลูมเบิร์ก