กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-VIETNAMRMF)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียกนามเพื่อการออม (B-VIETNAMSSF)
“กองทุนให้ผลตอบแทนมากกว่า Benchmark เป็นผลมาจากการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มการเงินและกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ ในภาคธนาคาร คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมยังคงไม่ดีนัก ทั้งในส่วนลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบริษัท อีกทั้งการเติบโตของสินเชื่อยังอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารที่กองทุนให้น้ำหนักอยู่ในพอร์ตไม่ได้รับผลกระทบนี้ และหุ้นวัสดุอุปกรณ์ที่กองทุนลงทุนมีกำไรเติบโตดีในไตรมาส 1/2023 และมีแนวโน้มที่กำไรจะเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล”
พอร์ตการลงทุน
• ตั้งแต่ต้นปี ตลาดเวียดนามให้ผลตอบแทนแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม โดยกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ กลุ่มสินค้าจำเป็นและสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวลดลง
• กองทุนให้ผลตอบแทนมากกว่า Benchmark เป็นผลมาจากการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มการเงินและกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ ในภาคธนาคาร คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมยังคงไม่ดีนัก ทั้งในส่วนลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบริษัท อีกทั้งการเติบโตของสินเชื่อยังอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารที่กองทุนให้น้าหนักอยู่ในพอร์ตไม่ได้รับผลกระทบนี้ และหุ้นวัสดุอุปกรณ์ที่กองทุนลงทุนมีกำไรเติบโตดีในไตรมาส 1/2023 และมีแนวโน้มที่กำไรจะเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล
• ตลาดหุ้นเวียดนามมีแรงกดดันเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งอาจทำให้ตลาดผันผวนได้ระยะหนึ่ง ผู้จัดการกองทุนเพิ่มการลงทุนในหุ้นเกี่ยวการบริโภค เพราะเห็นโอกาสการเติบโตระยะยาวและราคาอยู่ในช่วงที่น่าสนใจ และยังได้เพิ่มน้าหนักในกลุ่มการเงิน เพราะมองว่าราคาหุ้นมีโอกาสจะเพิ่มขี้นได้ในอนาคต ภายใต้กฎระเบียบที่ยังมีอยู่
• นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนได้ปรับน้ำหนักการลงทุนของพอร์ตให้เป็นไปตามกลยุทธ์ โดยได้ลดน้ำหนักในกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ และกลุ่มบริโภคบางส่วน รวมถึง ETF ด้วย เพื่อลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มดีกว่า
มุมมองในอนาคต
• ผู้จัดการกองทุนมองว่า แรงกดดันในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังมีอยู่ โดยเฉพาะบริษัทที่มีสัดส่วนเงินกู้สูง และเกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่เคลื่อนไหวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ เช่น ภาคบริการ และที่อยู่อาศัยราคาสูง ซึ่งอาจกระทบต่อเนื่องไปยังคุณภาพสินทรัพย์ของภาคธนาคารด้วย
• ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดหุ้นเวียดนามอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้มีโอกาสที่จะถูกปรับลดประมาณการกำไรของไตรมาส 2/2023 แต่จะมีความแตกต่างกันในกลุ่มอุตสาหกรรม และมูลค่าของตลาด Price/Earning Ratio อยู่ที่ 11 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจ อีกทั้งภาครัฐได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและกระตุ้นการเติบโต
• ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองว่า การสนับสนุนจากภาครัฐจะสามารถบรรเทาปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกได้ในระดับหนึ่ง โดยปัจจัยบวกต่อหุ้นเวียดนามในระยะสั้น ได้แก่ การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และการเปิดประเทศของจีน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อภาคบริโภคในเวียดนาม และกองทุนจะใช้โอกาสนี้ในการสะสมหุ้นที่น่าสนใจเพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะต่อไป • กลยุทธ์หลักยังคงเน้นลงทุนใน 3 Theme การลงทุนหลัก คือ 1) การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และ 3) หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนตรงจากต่างประเทศ และการย้ายฐานการผลิต โดยเน้นการลงทุนทั้งในหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดกลางและเล็ก
Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจากการใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้
ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดาเนินงานในอนาคต