นักวิเคราะห์ต่างชาติ ฟันธง “เงินบาทไทย” จ่อแข็งค่าขึ้น 5% แตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ หวังเศรษฐกิจฟื้น และคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานถ้อยแถลงของนักวิเคราะห์จาก Ebury และ Societe Generale SA วันนี้ (25 ก.ย.66) ว่า “เงินบาทไทย” มีแนวโน้มฟื้นตัวแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน
โดยนักกลยุทธ์ตลาดเงินที่ Ebury และ Societe Generale SA คาดว่า เงินบาทไทยจะปรับตัวมาอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปี ซึ่งแข็งกว่าระดับปัจจุบันมากกว่า 5% โดยค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพจะช่วยลดภาระหนี้ของภาครัฐ (Sovereign Debt) และลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทย ตามรายการของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี
“ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัวของไทยที่กระทบต่อเศรษฐกิจลดลงอย่างมาก เริ่มต้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน” Vijay Kannan นักยุทธศาสตร์มหภาคของ Societe Generale SA กล่าว
พร้อมเสริมว่า “ในอนาคต หาก Sentiment ด้านความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เงินบาทไทยจะปรับตัวดีขึ้น”
ทั้งนี้ เงินบาทของไทยร่วงลง 2.8% ในเดือนก.ย. นับเป็นสกุลเงินที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดในเอเชีย ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลไทยของประเทศก็แสดงผลงานได้ไม่ดีนักเช่นเดียวกัน เพราะนักลงทุนกังวลเรื่องการกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ด้าน Saktiandi Supaat และคณะนักกลยุทธ์ตลาดเงิน บล. Maybank กล่าวว่า แม้ความกังวลด้านการดำเนินนโยบายทางการคลังจะกดดันเงินบาทในระยะสั้น
“แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราลดมุมมองเชิงบวกในระยะกลางของเงินบาทไทยลง”
พร้อมเสริมว่า “ค่าเงินบาทมีแนวโน้มเเข็งค่าขึ้นท่ามกลางการกลับมาของนักท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล”
โดย Matthew Ryan หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของ Ebury เปิดเผยว่า “เชื่อฟันด์โฟลว์ที่ไหลออกจากประเทศไทยช่วงที่ผ่านมา มากเกินไป และในอนาคตเงินบาทมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์”
พร้อมเสริมว่า “ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยหนุนค่าเงินบาท ในขณะที่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของประเทศกลับมาเป็นบวกอย่างมั่นคง”
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไทยอาจเตรียมการเพิ่มเติมสำหรับสกุลเงินหากจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปเป็น 2.5% ในวันที่ 27 ก.ย.66 ตามที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์จากการสำรวจของบลูมเบิร์ก โดย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยกับบลูมเบิร์กจากราคาพลังงานและอาหารสูงขึ้น
ที่มา: บลูมเบิร์ก