นายพาวเวล กล่าวกับผู้ดำเนินรายการ 60 Minutes ว่า ชาวอเมริกันอาจจะต้องรอคอยนานกว่าเดือนมี.ค. หากต้องการเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเจ้าหน้าที่เฟดจำเป็นต้องรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ นายพาวเวล กล่าวว่า เขายังคงมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพ.ย.ปีนี้ จะไม่ทำให้จุดยืนด้านนโยบายการเงินของเฟดเปลี่ยนแปลงไป
“ด้วยเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกรงในขณะนี้ ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เราต้องการเห็นหลักฐานเพิ่มเติมว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะปรับตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน แม้ว่าเรามีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงสู่เป้าหมาย แต่เราก็ต้องการหลักฐานยืนยันเพิ่มเติม ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนที่สำคัญของการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย” นายพาวเวล กล่าว
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์นายสก็อต เพลลีย์ ผู้ดำเนินรายการ 60 Minutes นั้น นายพาวเวลได้แสดงมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในระดับปานกลาง แม้ว่าจะยังสูงกว่าเป้าหมายของเฟด ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 353,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายพาวเวลในวันอาทิตย์ (4 ก.พ.) ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นายพาวเวล ยังกล่าวด้วยว่า ในการประชุมเฟดเดือนมี.ค.นั้น คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยมุมมองที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เขาไม่คิดว่าคณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนดังกล่าว
ส่วนในการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น นายพาวเวลส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. เนื่องจากเฟดยังไม่มั่นใจว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะอยู่ในทิศทางที่จะทำให้เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวได้หรือไม่
นายพาวเวล กล่าวว่า “คณะกรรมการ FOMC เชื่อมั่นว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีข้อมูลยืนยันว่าเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้แล้ว แต่เมื่อพิจารณาจากการประชุมในครั้งนี้ ผมไม่คิดว่าคณะกรรมการ FOMC จะมีความเชื่อมั่นในเรื่องนี้ได้ภายในช่วงเวลาที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. ซึ่งหมายความว่าเราไม่อาจชี้ชัดได้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.”
ทั้งนี้ นายพาวเวล ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว และดอกเบี้ยอาจจะปรับลดลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และการคาดการณ์ว่าการเติบโตของการจ้างงานและเศรษฐกิจจะมีความยั่งยืน อย่างไรก็ดี นายพาวเวลปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อใด โดยเขากล่าวว่า “ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับข้อมูล”
ที่มา: รอยเตอร์ / บลูมเบิร์ก