สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะตัดสินใจเกี่ยวกับปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีความพร้อม โดยปฏิเสธประเด็นที่ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. นั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก่อนถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. นี้
“ภารกิจของเรา คือ การตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นโดยพิจารณาจากข้อมูลที่มีเป็นหลัก รวมถึงข้อมูลที่กำลังจะออกมา ภาพรวมในอนาคต และความสมดุลด้านความเสี่ยง ไม่ว่าจะปัจจัยอื่น ๆ จะเป็นอย่างไร ซึ่งหมายรวมถึงปัจจัยทางการเมืองด้วย” นายพาวเวลล์กล่าว ระหว่างแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา
“เราทำเช่นนี้มายาวนานแล้ว รวมถึงในปีที่มีการเลือกตั้งด้วย…ทุกสิ่งที่เราทำจะต้องมีพื้นฐานที่ชัดเจนหนักแน่น ซึ่งคงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมหากคิดถึงแต่กระบวนการเลือกตั้งในทางใดทางหนึ่ง” นายพาวเวลล์ กล่าวเพิ่มเติม
ความเห็นดังกล่าวของนายพาวเวลล์ เป็นการตอบคำถามของนายไมค์ ลอว์เลอร์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันของรัฐนิวยอร์ก เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ว่าเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. หรือไม่ โดยปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้ประมาณ 70% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงดังกล่าว
ทั้งนี้ สภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในภาคที่อยู่อาศัย อาหาร และต้นทุนอื่น ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับพรรครีพับลิกัน เนื่องจากยังไม่เป็นที่น่าพอใจในแง่ความเชื่อมั่นของประชาชน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงแล้วก็ตาม แต่สินค้าหลายชนิดยังมีราคาสูง โดยคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่า จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในช่วงดังกล่าวอยู่ในระดับสูง
ที่ผ่านมา นายพาวเวลล์และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ ระบุว่า จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจมากขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงการระบาดของโควิด-19
เมื่อถูกถามเกี่ยวการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นายพาวเวลล์แสดงความมั่นใจในระดับหนึ่งเกี่ยวกับความชัดเจนของปัจจัยในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน ก็ระบุว่า ยังไม่พร้อมที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ข้อมูลในช่วงหลัง ๆ เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยนายพาวเวลล์กล่าวต่อสภาคองเกรสว่า ความเสี่ยงต่อตลาดแรงงานในขณะนี้อยู่ในระดับพอ ๆ กับความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดตั้งใจที่จะบรรลุเป้าหมายทั้งการสร้างเสถียรภาพด้านราคาและเป้าหมายการจ้างงาน
นายพาวเวลล์กล่าวว่า “มีแนวโน้มที่จะกลับไปสู่การสร้างเสถียรภาพด้านราคาอย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันก็ยังคงพยายามควบคุมอัตราการว่างงานให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งตัวเลขอัตราการว่างงานที่ 4.1% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี”
ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งต่อไปในวันที่ 30-31 ก.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า เฟดจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25-5.5% อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการแถลงนโยบาย ซึ่งอาจปูทางไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. นี้
ที่มา: รอยเตอร์