สหรัฐฯ-จีน ลงนามข้อตกลงการค้าแล้ว เตรียมปิดดีล 10 ชาติคู่ค้าเร็วๆ นี้

สหรัฐฯ-จีน ลงนามข้อตกลงการค้าแล้ว เตรียมปิดดีล 10 ชาติคู่ค้าเร็วๆ นี้

นายฮาวเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ และจีน ได้ลงนามบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ตกลงกันไว้ในการเจรจาที่นครเจนีวาเมื่อเดือนพ.ค. โดยทำเนียบขาวมีแผนที่จะบรรลุข้อตกลงอีก 10 ฉบับในเร็ว ๆ นี้

ข้อตกลงกับจีน ถือเป็นการบัญญัติเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงข้อผูกมัดจากจีนในการส่งมอบแร่หายาก ซึ่งถูกนำไปใช้ในทุกอุตสาหกกรม ตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงเครื่องบินเจ็ต โดยระบุว่า “พวกเขาจะส่งมอบแร่หายากให้กับเรา และเมื่อส่งมอบ เราก็จะยกเลิกมาตรการตอบโต้ของเรา” ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐฯ และจีนตกลงตามเงื่อนไขเพื่อดำเนินการตามข้อตกลงเจนีวา

ข้อตกลงกับจีน ได้กำหนดเงื่อนไขที่วางไว้ในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่าย ต่างกล่าวหากันว่า ละเมิดเงื่อนไขของข้อตกลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ ยังคงขึ้นอยู่กับการดำเนินการในอนาคตของทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงการส่งออกแร่หายากของจีนด้วย

ลุตนิค กล่าวว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมที่จะสรุปข้อตกลงทางการค้าหลายฉบับในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเชื่อมโยงกับเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. ที่ประธานาธิบดีกำหนดไว้เพื่อเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น หลังจากประกาศเลื่อนเมื่อเดือนเม.ย. “เราจะทำข้อตกลงกับชาติคู่ค้า 10 อันดับแรก จัดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เหมาะสม และจากนั้นประเทศอื่นๆ ก็จะตามมา” อย่างไรก็ตาม ลุตนิคไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้าง ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้ารอบแรกนั้น แม้ทรัมป์ได้แย้มว่าสหรัฐฯ ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับอินเดียแล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี ทรัมป์ ยังกล่าวว่า จะส่ง “จดหมาย” ไปยังประเทศต่างๆ เพื่อกำหนดเงื่อนไขทางการค้า ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันเวลา ประเทศต่างๆ จะถูกจัดให้อยู่ใน “หมวดหมู่ที่เหมาะสม” ในวันที่ 9 ก.ค.

ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ข้อตกลงทางการค้าเหล่านี้จะครอบคลุมมากน้อยเพียงใด โดยปกติแล้วข้อตกลงทางการค้าใช้เวลาหลายปี ไม่ใช่แค่ไม่กี่เดือนในการเจรจา ซึ่งข้อตกลงก่อนหน้านี้กับสหราชอาณาจักรยังคงมีคำถามสำคัญที่ยังไม่ตัดสินใจ รวมถึงส่วนลดสำหรับโลหะนำเข้าบางชนิด ขณะที่ ข้อตกลงกับจีน ที่ลุตนิคอธิบายนั้น ยังห่างไกลจากข้อตกลงทางการค้าที่ครอบคลุม ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการลักลอบค้าเฟนทานิลและการเข้าถึงตลาดจีนของผู้ส่งออกชาวอเมริกัน

ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อาจขยายเส้นตายที่กำลังจะมา ถึงสำหรับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจากประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก โดยแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เส้นตายวันที่ 8 และ 9 ก.ค. ที่ทรัมป์กำหนดไว้สำหรับการเรียกเก็บภาษีใหม่กับประเทศเหล่านั้น “ไม่ใช่เรื่องสำคัญ” พร้อมเสริมว่า “อาจมีการขยายออกไปได้ แต่เป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดี” อีกทั้งยังระบุว่า หากประเทศเหล่านั้นปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ภายในเส้นตาย “ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็สามารถเสนอข้อตกลงให้กับประเทศเหล่านี้ได้ง่าย ๆ นั่นหมายความว่า ประธานาธิบดี สามารถเลือกอัตราภาษีตอบโต้ที่เขาเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และต่อแรงงานชาวอเมริกัน”

ก่อนหน้านี้ ในเดือนเม.ย. ประธานาธิบดี ทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีที่เรียกว่า “ภาษีตอบโต้” ในอัตราที่แตกต่างกันไปสำหรับสินค้านำเข้าจากเกือบทุกประเทศ ก่อนจะผ่อนผันภาษีเหล่านั้นเป็นเวลา 90 วัน (ยกเว้นภาษีพื้นฐาน 10% ยังมีผลอยู่) เพื่อให้ประเทศเหล่านั้นมีเวลาในการเจรจา ซึ่งเส้นตายดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 8 ก.ค.นี้


ที่มา Bloomberg และ CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย