ค่าย EV จีน เปิดเกมเจาะตลาดยานยนต์ไฟฟ้านอร์เวย์-ชูจุดเด่นภาษีเป็นศูนย์ หวังรุกคืบท้าชนเบอร์ใหญ่ตลาดยุโรป
ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน กำลังเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในนอร์เวย์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับ Tesla ของอีลอน มัสก์ และค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของยุโรป
นับตั้งแต่ MG ซึ่งเป็นค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกให้กับลูกค้าในประเทศนอร์เวย์ เมื่อเดือนม.ค. 2020 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีน ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาดรวมกันได้ประมาณ 10% ซึ่งได้รับแรงหนุนจากราคาที่เข้าถึงได้และเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้ มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เมื่อพิจารณาจากการตัดสินใจของนอร์เวย์ ที่ไม่เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ EV ของจีน รวมถึงชื่อเสียงของประเทศ ในฐานะประเทศที่เป็นมิตรกับ EV มากที่สุดในโลก
นโยบายภาษีของนอร์เวย์ ทำให้ประเทศแห่งนี้แตกต่างจากทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ EV ที่ผลิตในจีน เพื่อปกป้องแบรนด์ท้องถิ่นที่เคยครองตลาดมาโดยตลอด โดยคริสตินา บู เลขาธิการสมาคม EV แห่งนอร์เวย์ (NEVA) กล่าวว่า ขณะนี้มีรถยนต์ EV ของจีนอย่างน้อย 20 รุ่นที่วางจำหน่ายในตลาดนอร์เวย์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มุมมองของชาวนอร์เวย์ที่มีต่อรถยนต์ EV ของจีนได้ “เปลี่ยนไปมาก” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “พวกเขาเห็นว่ารถยนต์จีนเป็นรถที่ดี มีเทคโนโลยีที่ดี และยังค่อนข้างแข่งขันได้ในด้านราคา ดังนั้น ตลาด EV ในนอร์เวย์ จึงมีการแข่งขันที่สูงมาก เรามีส่วนแบ่งตลาดใกล้ 94% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้”
ข้อมูลจาก Norwegian Road Federation (OFV) ระบุว่า ผู้ผลิตรถยนต์ EV ของจีน เช่น BYD, XPeng และ MG เป็นหนึ่งใน 20 บริษัทที่มียอดขายสูงสุดในตลาดรถยนต์ใหม่ของนอร์เวย์ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ Volvo และ Polestar ของสวีเดนก็อยู่ในรายชื่อดังกล่าวเช่นกัน โดยมี Geely Holding Group ของจีน เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั้ง 2 ราย ในขณะเดียวกัน Tesla ยังคงเป็นค่ายผู้ผลิตที่โดดเด่นในนอร์เวย์ โดยผู้ผลิต EV ของสหรัฐฯ รายนี้ เป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในนอร์เวย์ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เฟลิเป มูนอซ นักวิเคราะห์ระดับโลกจากบริษัทวิจัย JATO Dynamics กล่าวว่า นอร์เวย์เป็นประเทศในยุโรปที่แบรนด์รถยนต์จีนมีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยอยู่ที่ 10.04% ระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. 2025 “ด้วยกฎระเบียบ วัฒนธรรม และขนาดของประเทศ นอร์เวย์จึงเป็นห้องทดลอง EV ของยุโรป ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับแบรนด์ที่ไม่เป็นที่รู้จักที่ต้องการขาย EV ในประเทศอื่น ๆ ของยุโรป” นอกจากนี้ นอร์เวย์ไม่มีอุตสาหกรรมรถยนต์ของตัวเอง ซึ่งหมายความว่าคนนอกสามารถเข้ามาครองตลาดได้ง่ายกว่าโดยไม่กระทบผลประโยชน์ของใคร
ที่มา CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย