รายงานล่าสุดจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจของอังกฤษ (CEBR) คาดการณ์ว่า มูลค่าการซื้อสินค้ามือสองทางออนไลน์ในอังกฤษจะพุ่งแตะระดับ 4.8 พันล้านปอนด์ (ราว 6.4 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 4.3 พันล้านปอนด์ในปี 2567 ท่ามกลางกระแสรัดเข็มขัดของผู้บริโภค และความนิยมสินค้ามือสองสภาพดี
รายงาน ระบุว่า 2 ใน 3 ของผู้บริโภคชาวอังกฤษเคยซื้อสินค้ามือสองทางออนไลน์เมื่อปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ โดยปัจจัยหลักมาจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ความพยายามลดค่าใช้จ่ายท่ามกลางค่าครองชีพสูง รวมถึงการที่ผู้คนหันมาขายเสื้อผ้าหรือของที่ใช้แล้วเพื่อหารายได้เสริม
โทมัส แพลนเทงกา ซีอีโอของวินเท็ด (Vinted) แพลตฟอร์มขายเสื้อผ้ามือสองรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 5.8 พันล้านดอลลาร์ กำลังขยายหมวดหมู่สินค้าไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ของเล่น เครื่องเล่นเกม และอาจรวมถึงนาฬิกาหรูในอนาคต
ขณะเดียวกัน แบรนด์ค้าปลีกรายใหญ่ต่างเริ่มปรับตัวรับกระแสนี้เช่นกัน เช่น อินดิเท็กซ์ (Inditex) เจ้าของอาณาจักรซาร่า (Zara) ที่ขยายแพลตฟอร์มขายเสื้อผ้ามือสองในสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ขณะที่ อเมซอน (Amazon) ก็เพิ่มไลน์สินค้าอเมซอน เซคันด์ แชนซ์ (Amazon Second Chance) เพื่อจำหน่ายสินค้าที่ถูกส่งคืนในราคาพิเศษ พร้อมนำเสนอสินค้าแฟชั่นมือสองสภาพดี เช่น เดรสแบรนด์หรูดิออร์ (Dior) และกางเกงวอร์มกุชชี่ (Gucci)
CEBR ระบุว่า ในหมวดสินค้ายอดนิยม เช่น เทคโนโลยี แฟชั่น และเครื่องใช้ภายในบ้าน สินค้ามือสองครองสัดส่วน 34%–45% ของการใช้จ่ายผู้บริโภคในอังกฤษ ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ อเมซอนดอทคอมได้มอบหมายให้ CEBR จัดทำรายงานวิจัยฉบับนี้ขึ้น โดยการสำรวจกลุ่มตัวอย่างกว่า 10,000 คนทั่วยุโรป
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์