
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เปิดทำเนียบต้อนรับผู้นำรัสเซียและเกาหลีเหนือที่กรุงปักกิ่งเป็นครั้งแรก เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้น ในขณะที่ นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสั่นคลอนพันธมิตรตะวันตก และคาดว่าจะเป็นเวทีที่สามผู้นำจะร่วมแสดงวิสัยทัศน์ที่ท้าทายอำนาจของสหรัฐฯ
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้การต้อนรับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ที่มหาศาลาประชาชน ก่อนเชิญต่อไปยังที่พักส่วนตัว พร้อมเรียกปูตินว่า เป็น “สหายเก่า” ก่อนที่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ขบวนรถไฟหุ้มเกราะของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ จะเดินทางมาถึงกรุงปักกิ่ง โดยผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาว คิม จูเอ
คิม จูเอ ซึ่งถูกหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ ประเมินว่า อาจเป็นทายาทสืบตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือที่มีโอกาสมากที่สุด โดยนี่ถือเป็นเวทีการทูตระดับนานาชาติครั้งแรกของเธอ หลังก่อนหน้านี้ มักปรากฏตัวเคียงข้างบิดาในงานสำคัญภายในประเทศ ซึ่งทั้ง 3 ผู้นำ เตรียมขึ้นเวทีร่วมในพิธีสวนสนามทางทหารครั้งใหญ่ในวันนี้ ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ตั้งใจใช้เป็นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ต่อระเบียบโลกใหม่ ในขณะที่ นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกระทบความสัมพันธ์ของพันธมิตรตะวันตก
บรรดานักวิเคราะห์ต่างจับตาว่า การพบปะครั้งนี้อาจเป็นสัญญาณถึงการเพิ่มความสัมพันธ์ด้านกลาโหม หลังจากรัสเซียและเกาหลีเหนือ เพิ่งลงนามข้อตกลงร่วมมือทางทหารเมื่อกลางปี 2024 เช่นเดียวกับพันธมิตรระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเปลี่ยนสมการทางทหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสร้างแรงกดดันต่อประธานาธิบดี ทรัมป์ ที่พยายามอ้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำทั้ง 3
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังกล่าวในที่ประชุมกับผู้นำกว่า 20 ประเทศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า โลกต้องยืนหยัด “ต่อต้านลัทธิชาตินิยมเชิงมหาอำนาจและการเมืองเชิงอำนาจ” ซึ่งถูกมองว่า เป็นการเหน็บแนมสหรัฐฯ โดยตรง ซึ่งเขายังได้พบปะกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ของอินเดีย ที่ถูกประธานาธิบดี ทรัมป์กล่าวโจมตีกรณีสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย ด้านก๊าซพรอมของรัสเซียและบริษัทน้ำมันแห่งชาติจีน (CNPC) ได้ลงนามข้อตกลงเพิ่มการส่งออกก๊าซ และสร้างท่อส่งก๊าซเส้นใหม่ที่สามารถป้อนจีนได้ยาวนานถึง 30 ปี
ด้านนักวิจัย ชี้ว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ “แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้” หลังสงครามยูเครนทำให้รัสเซียใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือมากขึ้น ทั้งที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน รัสเซียและจีน ยังร่วมกดดันคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเรื่องการทดลองนิวเคลียร์ โดยปัจจุบัน เกาหลีเหนือได้ส่งทหารกว่า 15,000 นายเข้าร่วมรบกับรัสเซียในยูเครน โดยมีทหารราว 600 นายเสียชีวิตในแคว้นคุร์สก์
สำหรับคิม จอง อึน การเข้าร่วมพิธีสวนสนามครั้งนี้ นับเป็นการประชุมพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเข้าร่วม เปิดโอกาสในการสร้างการยอมรับโดยปริยายต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และขยายวงการทูตของตน โดยก่อนเดินทางเข้าจีน คิม จอง อึน ยังได้เยี่ยมชมโรงงานขีปนาวุธเพื่อแสดงศักยภาพในฐานะ “รัฐนิวเคลียร์”
ทั้งนี้ พิธีสวนสนาม “วันแห่งชัยชนะ” ของจีน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกวาระครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีผู้เข้าชมราว 50,000 คน และรัฐบาลจีนได้ปล่อยนกพิราบแห่งสันติภาพกว่า 80,000 ตัว พร้อมขบวนแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดในกรุงปักกิ่ง
ที่มา Reuters, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย