เศรษฐกิจเวียดนาม โตกระฉูด 8.22% ใน Q3/25 แม้สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า 20%

เศรษฐกิจเวียดนาม โตกระฉูด 8.22% ใน Q3/25 แม้สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า 20%

รัฐบาลเวียดนาม ประกาศว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 8.22% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้ภาษีนำเข้า 20% ต่อสินค้าจากเวียดนาม โดยอัตราการเติบโตดังกล่าว เร่งขึ้นจาก 7.96% ในไตรมาสก่อนหน้า

เหงียน วัน ถั่ง (Nguyen Van Thang) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเวียดนาม ระบุในแถลงการณ์ว่า “นี่เป็นการเติบโตของไตรมาสที่สูงที่สุด นับตั้งแต่ปี 2011 หากไม่นับการเร่งตัวในปี 2022 ซึ่งเกิดจากการฟื้นตัวหลังการระบาดของโควิด-19” โดยข้อมูลของรัฐบาล ระบุว่า มูลค่าการค้ารวม (ทั้งนำเข้าและส่งออก) ของเวียดนามในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ พุ่งแตะระดับกว่า 680,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อนหน้า โดยเวียดนามเกินดุลการค้าอยู่ที่ 16,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม รายงานเศรษฐกิจดังกล่าว ยังไม่ครอบคลุมข้อมูลการค้าในวงกว้าง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญ เนื่องจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บต่อสินค้าส่วนใหญ่จากเวียดนาม มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ซึ่งอยู่ในช่วงกลางไตรมาส 3

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ฝั่ม มิงห์ จิ๋ง (Pham Minh Chinh) คาดว่า ยอดส่งออกของเวียดนามจะเติบโตมากกว่า 12% ตลอดปีนี้ แต่รายงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เตือนว่า มาตรการเก็บภาษีของสหรัฐฯ อาจทำให้การส่งออกของเวียดนามไปยังตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงมากถึง 1 ใน 5 ซึ่งจะทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน

รัฐบาลเวียดนาม ยืนยันว่า จะเดินหน้าการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์ของประเทศระบุว่า ยังมุ่งรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญระหว่าง 2 ประเทศ

ขณะเดียวกัน ในไตรมาสที่ผ่านมา เวียดนามต้องเผชิญกับผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง หลังเผชิญพายุถึง 8 ลูก รวมถึงไต้ฝุ่นบัวลอย (Bualoi) ที่สร้างความเสียหายราว 16.5 ล้านล้านดอง (ประมาณ 625.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 7.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 โดยรัฐบาลตั้งเป้าการเติบโตของ GDP ทั้งปีอยู่ระหว่าง 8.3%–8.5% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่เติบโต 7.09% และมากกว่าที่ธนาคารโลก (World Bank) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินไว้ที่ 6.6% และ 6.5% ตามลำดับ

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียดนาม เตือนว่า แนวโน้มการเติบโตในปี 2025 อาจเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกและการปฏิรูปภายในประเทศที่ดำเนินไปอย่างล่าช้า ขณะเดียวกัน ความรุนแรงของภัยธรรมชาติคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วงเดือนม.ค.–ก.ย. อยู่ที่ 3.27% ขณะที่ เดือนก.ย.เพียงเดือนเดียวอยู่ที่ 3.38%


ที่มา: Reuters, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย