IMF ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแรงในไตรมาส 4 – ชัตดาวน์ทำประเมินแนวโน้มยากขึ้น

IMF ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนแรงในไตรมาส 4 – ชัตดาวน์ทำประเมินแนวโน้มยากขึ้น

องทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณความตึงเครียด โดยคาดว่าการเติบโตในไตรมาส 4 ปีนี้ จะชะลอลงจากคาดการณ์เดิม ขณะที่การประเมินภาพรวมเศรษฐกิจทำได้ยากขึ้น เพราะขาดข้อมูลสำคัญในช่วงที่มีการชัตดาวน์ยาวนานถึง 43 วัน

จูลี โคแซค (Julie Kozack) โฆษก IMF กล่าวว่า IMF จำเป็นต้องเลื่อนการประเมินภาวะเศรษฐกิจประจำปี 2025 (Article IV Consultation 2025) กับสหรัฐฯ ออกไป เพราะการชัตดาวน์ส่งผลให้ไม่สามารถเตรียมข้อมูลได้ตามแผน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีกำหนดการใหม่ พร้อมระบุว่า แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแสดงความแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ เริ่มเห็นแรงกดดันชัดเจนขึ้น โดยอุปสงค์ภายในประเทศกำลังชะลอตัวและการจ้างงานเติบโตช้าลง ขณะที่ การไหลเข้าของผู้อพยพลดลง มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า และความไม่แน่นอนด้านนโยบายที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลกดดันต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

IMF คาดว่า การชัตดาวน์ครั้งประวัติศาสตร์จะฉุดการเติบโตในไตรมาส 4 ให้ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 1.9% ซึ่งเผยแพร่ในเดือนต.ค. แต่คาดว่า จะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสแรกของปี 2026 คล้ายกับเหตุการณ์ชัตดาวน์ในอดีต อย่างไรก็ตาม การไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นมา ทำให้ IMF ประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ยากขึ้น

IMF มองว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แต่การเพิ่มขึ้นของภาษีนำเข้าก่อให้เกิดความเสี่ยงเงินเฟ้อด้านบวก (upside risk) ขณะที่การจ้างงานที่ชะลอตัว ทำให้เฟดต้องรับมือกับความท้าทายเชิงนโยบายมากขึ้น “ดังนั้น เฟดจึงดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงที่ผ่านมาอย่างเหมาะสม และจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังต่อไป ในการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และความเสี่ยงต่อการชะลอตัวของตลาดแรงงาน”

นอกจากนี้ IMF ยังคงมองว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย แม้อัตราการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง แต่ระดับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ยังคงสร้างภาระต่อบางกลุ่มประชากรอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อถูกถามถึงผลกระทบจากการที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่แอฟริกาใต้ในช่วงวันที่ 21-23 พ.ย. โคแซค กล่าวว่า G20 ยังคงเป็นเวทีสำคัญที่ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการ IMF จะเข้าร่วมประชุมหลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนแองโกลา

ทั้งนี้ โคแซคกล่าวว่า ประเด็นหนี้จะยังเป็นวาระสำคัญ ในช่วงที่สหรัฐฯ เตรียมรับตำแหน่งประธาน G20 ในปี 2026 ซึ่งจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำที่ไมอามี

ที่มา: Reuters, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย