ราคาทองคำเดือนพ.ย. จ่อพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยส่งท้ายปี คาดปี 2568 นี้จ่อทำผลงานดีที่สุดในรอบ 46 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำ ขยับขึ้นและกำลังมุ่งหน้าสู่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. นี้ ท่ามกลางความคาดหวังที่ร้อนแรงขึ้นว่า สหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งส่งท้ายปี
ราคาทองคำซื้อขายอยู่ที่ราว 4,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันศุกร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 5% ในรอบสัปดาห์ และล่าสุดเมื่อเวลา 09.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 19 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ไปแตะระดับ 4,221.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กระแสการคาดการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ยิ่งได้รับแรงหนุนจากท่าทีของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ล่าช้า ซึ่งทั้งหมดช่วยสนับสนุนแนวโน้มการกู้ยืมต้นทุนต่ำลง และโดยปกติแล้วจะเป็นผลบวกต่อทองคำเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ ไม่ให้ดอกเบี้ย
ปัจจุบันตลาดสวอปคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 80% สำหรับการลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม FOMC ครั้งสุดท้ายของปี วันที่ 9-10 ธ.ค. นี้
บรรดานักลงทุนจะจับตาทุกสัญญาณสุดท้ายเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งถัดไป ก่อนที่เฟดจะเข้าสู่ช่วงห้ามสื่อสารต่อสาธารณะ (blackout period) ซึ่งจะเริ่มในวันเสาร์ที่ 29 พ.ย. นี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลครั้งประวัติการณ์ทำให้ข้อมูลสำคัญหลายชุดล่าช้า และสถิติบางรายการก็ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเลย ซึ่งยิ่งทำให้เฟดและนักลงทุนประเมินสภาพเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ยากขึ้น
ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกเดือนในปีนี้ และปี 2568 กำลังมุ่งหน้าสู่ปีที่ทองคำสร้างผลตอบแทนรายปีดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 เป็นต้นมา หรือดีที่สุดในรอบ 46 ปี
ทองคำในปีนี้ได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อในระดับสูงของ “ธนาคารกลาง” ทั่วโลก รวมถึงเม็ดเงินจากนักลงทุนเอกชนที่ไหลเข้ากองทุน ETF ทองคำอย่างแข็งแกร่ง ช่วยผลักดันทองคำขึ้นทำสถิติสูงสุดเหนือระดับ 4,380 ดอลลาร์ เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ นักลงทุนจำนวนมากเทน้ำหนักไปที่สินทรัพย์ทางเลือก ท่ามกลางการเทขายพันธบัตรรัฐบาลและสกุลเงินหลายประเทศ
ในเดือนพ.ย. นี้ ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังปรับตัวลงจากจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล และจากการคำนวณของบลูมเบิร์กพบว่าตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสเงินไหลเข้า ETF ทองคำค่อนข้างทรงตัว
ส่วนราคาสินทรัพย์เงิน (silver) ปรับขึ้นสูงสุดราว 1% เข้าใกล้สถิติสูงสุดเมื่อเดือนก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากภาวะอุปทานตึงตัวอย่างต่อเนื่อง เงินทุนไหลเข้า ETF และแนวโน้มการลดดอกเบี้ย ขณะที่ ราคาแพลทินัมขยับขึ้นหลังจากดีดแรง 1.6% เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากสัญญาฟิวเจอร์สตัวใหม่ในจีนช่วยกระตุ้นดีมานด์ ส่วนราคาพัลลาเดียมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ที่มา: สำนักข่าวบลูมเบิร์ก

