
ผู้นำระดับสูงของจีนกำหนดให้การเสริมสร้างอุปสงค์ภายในประเทศเป็นวาระสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งในปี 2026 ขณะเดียวกัน ยังส่งสัญญาณว่าจะใช้แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง ในการประชุมกรมการเมือง แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในวันนี้ (8 ธ.ค.)
การประชุมโปลิตบูโร ซึ่งมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นประธานในที่ประชุม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้ให้คำมั่นว่า “เราต้องยึดอุปสงค์ภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เพื่อสร้างตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง” รายงานอย่างเป็นทางการ ยังระบุว่า ทางการยังให้คำมั่นว่า จะส่งเสริมขุมพลังใหม่ๆ ที่มีส่วนสำคัญในเชิงการผลิต ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนจะไม่ใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการผลิต อย่างน้อยๆ ในภาคส่วนที่สำคัญ
ที่ประชุมยังให้คำมั่นที่จะเสริมสร้างการปรับนโยบายแบบข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ (Cross-cyclical) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้คำดังกล่าว ซึ่งมีนัยถึงการวางแผนระยะยาว ปรากฏในรายงานของโปลิตบูโร นับจากเดือนธ.ค. 2023 พร้อมทั้งดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปานกลางต่อไป
แจ็กเกอลีน หรง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ BNP Paribas SA กล่าวว่า “ภาพรวมของการประชุม คือ ต้องการกระตุ้น ทั้งอุปสงค์และสร้างเสถียรภาพด้านอุปทาน ปักกิ่งส่งสัญญาณว่า กำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างการผ่อนคลายนโยบายการคลังและการเงิน ไปพร้อมกับการควบคุมความเสี่ยง เช่น ความยั่งยืนของหนี้ไว้ ดังนั้น แนวโน้มนโยบายในปีหน้า จึงน่าจะโน้มเอียงไปในเชิงผ่อนคลาย แต่ไม่มากนัก”
ที่มา Bloomberg, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
