เดอะเสตรทไทม์ รายงานว่า จากสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ตกลง ความกังวลด้านเครดิตและสงครามการค้า รวมถึงค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง ได้ส่งผลต่อความมั่งคั่งของเศรษฐีจีนในปีนี้ โดยบุคคลที่เคยติดอันดับคนรวยที่สุดในการจัดอันดับของฟอร์บส์ จีน ปีที่ผ่านมา หลุดจากอันดับไปถึง 93 คน
ทั้งนี้ มากกว่า 3 ใน 4 ของอภิมหาเศรษฐีในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง โดยจากรายงานของฟอร์บพบว่า เศรษฐีจีน 229 คนที่ยังติดอันดับคนรวยที่สุดนั้น มีทรัพย์สินน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดย 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ มีความมั่งคั่ง ลดลง 20% หรือมากกว่านั้น
เมื่อรวมแล้ว คนที่รวยที่สุด 400 คนที่ฟอร์บจัดอันดับในปีที่ผ่านมา จะมีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปีนี้บางส่วนของพวกเขากลับมีทรัพย์สินลดลงเหลือ 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแค่ 344 คนเท่านั้นในรายชื่อที่ยังมีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่
ขณะที่ แจ็ค หม่า เจ้าของอาณาจักรอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ อาลีบาบา กลับขึ้นมาติดอันดับคนที่รวยที่สุดในจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 โดยมีทรัพย์สินมากกว่า 34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4,000 ล้นดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปีก่อนหน้า โดยแจ็ค หม่า นั้น ไต่อันดับขึ้นมาแทนที่ Hui Ka Yan ผู้ทำธุรกิจบริษัทอสังหาริมทรัพย์ China Evergrande ที่มีทรัพย์สิน 30,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 28% จากปีที่ผ่านมา จนทำให้อันดับตกลงมาอยู่ที่ 3 ถือเป็นปีที่เขาสูญเสียความมั่งคั่งไปมากทีเดียวเมื่อแปลงสินทรัพย์เป็นดอลลาร์สหรัฐ จะสูญเสียความมั่งคั่งไป 11,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้าน Ma Huateng จากบริษัทอินเทอร์เน็ต เทนเซ็นต์ รั้งอันดับ 2 คนจีนที่รวยที่สุด ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 32,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความมั่งคั่งลดลงไป 6,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ