BBLAM Weekly Investment Insights 17 – 20 พฤษภาคม 2022

BBLAM Weekly Investment Insights 17 – 20 พฤษภาคม 2022

INVESTMENT INSIGHT

ตลาดหุ้นหลายประเทศทั่วโลกอยู่ในภาวะตลาดหมีแล้ว ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่มีผลกับการลงทุนคือ เงินเฟ้อและดอกเบี้ย ในภาวะนี้ BBLAM แนะนำ ไม่ต้องรีบร้อนลงทุน และถ้าลงทุนก็ควร DCA โดยเลือกกองทุนหุ้นคุณภาพ เช่น หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หรือหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน

ถ้าจะดูสภาพแวดล้อมการลงทุนในเวลานี้ ก็ต้องบอกว่าเหมือนเรากำลังเจอสภาพอากาศแปรปรวนอยู่ เดี๋ยวก็ฝนตก เดี๋ยวก็แดดออก แล้วแป๊บนึงก็อากาศหนาว ปรับตัวกันไม่ถูกเลย ซึ่งคุณสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน จาก BBLAM ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในช่วงเวลาแบบนี้ไว้ว่า ถ้าเช็คดูสภาพตลาดหุ้นกันจริงๆ ในเวลานี้ หลายตลาดเป็น Bear Market ไปแล้ว หรือก็คือ ภาวะตลาดหมี ที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงมาต่อเนื่องและเป็นเวลานาน

ตลาดจีน เป็นตลาดหมีมานานแล้วปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุด 45% ตลาดเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น ลดลง 30% จากจุดสูงสุด ขณะที่ Nasdaq ซึ่งมีความเป็นผู้นำจิตวิญญาณเพราะมีหุ้นเทคโนโลยีอยู่มาก ก็เป็นตลาดหมี ลดลงประมาณ 20% ถ้าไปดูปัจจัยที่มีผลกับตลาด ก็พบว่า มี 2 เรื่องที่ตลาดกังวลมาก ๆ คือ เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เร่งตัวขึ้น

ในภาวะแบบนี้ ถ้าจะลงทุนในตราสารหนี้ ก็ควรลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นๆ ส่วนตลาดหุ้น เวลาดอกเบี้ยขึ้น จะทำให้ ราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ลดลงมา รวมทั้งทำให้นักลงทุนอาจมองหาทางเลือกลงทุนในสินทรัพย์อื่นมากขึ้น ความสนใจการลงทุนในหุ้นก็อาจน้อยลง

คุณสันติ มองว่า สินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุนมากขึ้นในเวลานี้ คือ หุ้นคุณภาพ ซึ่งหมายถึง หุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง มีความสามารถตั้งราคาได้ ต่อให้ปรับขึ้นราคา ก็ไม่มีผลกับความต้องการบริโภค เช่น หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่บางตัวก็เป็นหุ้นคุณภาพ เพราะไม่ว่าราคาจะเป็นอย่างไร ผู้บริโภคก็ยังใช้งาน และมีระดับเงินสดที่สูง อีกกลุ่มคือ Real Asset หรือสินทรัพย์จริง  หมายถึง กองทุนรวมที่ลงทุนในโรงไฟฟ้า ทางด่วน โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคต่างๆ ที่สามารถปรับราคาขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อได้ตามสัญญาต่างๆ ที่ทำไว้กับภาครัฐด้วย

โดยรวมแล้ว คำแนะนำการลงทุนในภาวะตลาดหมี คือ ไม่ต้องรีบที่จะลงทุน เพราะตลาดหมีใช้เวลานาน มีความผันผวนสูง และต้องเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับภาวะนี้ สามารถต่อสู้กับเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ โดยสามารถใช้วิธีทยอยลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) ได้

ทั้งนี้ BBLAM แนะนำกองทุนต่างประเทศ ที่น่าลงทุนแบบ DCA ในช่วงเวลาแบบนี้ทั้งหมด 4 กองทุน คือ

  1. B-GLOB-INFRA ซึ่งลงทุนในสินทรัพย์จริงอย่างโครงสร้างพื้นฐานที่ต้านทานเงินเฟ้อได้ ขณะที่การเติบโตธุรกิจก็ยังมีอยู่ มีการจ่ายเงินปันผลที่ดี
  2. B-INNOTECH เพราะหุ้นเทคโนโลยียังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว และกองทุนหลักก็บริหารได้ดีถ้าเทียบกับคู่แข่งกองทุนหุ้นเทคฯ ด้วยกัน โดยจะเน้นการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรที่น่าสนใจ มีความสามารถขึ้นราคาได้
  3. B-CHINE-EQ เพราะถึงแม้จีนใช้นโยบาย zero Covid แต่ทางการจีนก็มีการใช้นโยบายการเงินการคลัง อัดฉีดให้เศรษฐกิจยืนอยู่ในระดับที่รัฐบาลต้องการให้เป็น และคาดว่าขนาดเศรษฐกิจจีนมีโอกาสจะแซงสหรัฐฯ ได้ในปี 2030 ขณะที่มูลค่าหุ้นหลายบริษัทยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงด้วย
  4. B-SIP ลงทุนในพลังงานทางเลือก โดยสหภาพยุโรปมีแผนการลงทุนพลังงานทางเลือก RePowerEU ตั้งเป้าหมายลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย

อ่าน BBLAM Weekly Investment Insights 17-20 พฤษภาคม 2022 ฉบับเต็มได้ที่

https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/17-20-2022