รัฐบาลจีนและเวียดนาม ตกลงที่จะส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในระหว่างการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน

ในการนี้ ทั้ง 2 ประเทศได้ลงนามข้อตกลงรวม 45 ฉบับ ครอบคลุมด้านต่างๆ อาทิ การเชื่อมโยงเครือข่าย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การตรวจสอบทางศุลกากร การค้าในภาคเกษตร วัฒนธรรมและการกีฬา การส่งเสริมคุณภาพชีวิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสื่อ ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว นอกจากนี้ ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศยังเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางระหว่างจีนและเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านนี้ ตามรายงานของ VTV สื่อของเวียดนาม
ทั้งนี้ ปี 2025 ถือเป็นวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-เวียดนาม ซึ่งเป็นหลักไมล์สำคัญของมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่ยึดถือคำว่า “มิตรภาพ+พี่น้อง” ซึ่งก่อนหน้านี้ ในเดือนธ.ค. 2023 ระหว่างการเยือนเวียดนามของสี จิ้นผิง ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงร่วมกันสร้างประชาคมจีน-เวียดนาม ที่มีอนาคตร่วมกันบนพื้นฐานของการเสริมสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ในการพบปะหารือกับโต ลัม เลขาธิการใหญ่ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ผู้นำจีนได้เรียกร้องให้พยายามผลักดันวิสัยทัศน์ดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง พร้อมเน้นย้ำว่า ทั้ง 2 ประเทศควรส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านอย่างมีคุณภาพ ดำเนินการสร้างประชาคมจีน-เวียดนามอย่างมั่นคงและยั่งยืน และมีบทบาทมากยิ่งขึ้นต่อการสร้างประชาคมร่วมของมวลมนุษยชาติในอนาคต นอกจากนี้ ยังระบุว่า การสร้างประชาคมจีน-เวียดนามที่มีอนาคตร่วมกัน มีความสำคัญในระดับโลก โดยประชากรของทั้ง 2 ประเทศที่มีรวมกันกว่า 1,500 ล้านคน จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความทันสมัย ซึ่งจะเปิดทางไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคและทั่วโลก
ด้านโต ลัม กล่าวว่า การเดินทางเยือนเวียดนามครั้งนี้ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะกลายเป็นหมุดหมายใหม่ในประวัติศาสตร์แห่งมิตรภาพระหว่างพรรคและประเทศ ทั้ง 2 อีกทั้งยังเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการสร้างประชาคมเวียดนาม-จีนที่มีอนาคตร่วมกัน
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนเวียดนามประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ได้เดินทางเยือนมาเลเซียต่อในทันที ก่อนจะถึงมาเลเซียเมื่อช่วงค่ำวานนี้ เพื่อหวังกระชับความสัมพันธ์ในภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภาษีศุลกากรกับสหรัฐฯ โดยกระทรวงการต่างประเทศ มาเลเซีย รายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีกำหนดพบกับนายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคี และแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้นำทั้ง 2 ยังจะร่วมเป็นสักขีพยานในการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ ข้อตกลง และบันทึกข้อความระหว่างทั้ง 2 ประเทศด้วย
ผู้นำจีน กล่าวว่า การเยือนมาเลเซียครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะกระชับความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกัน โดยผู้นำจีนเรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือในความพยายามในการปรับปรุงประเทศ เสริมสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน และยกระดับชุมชนจีน-มาเลเซีย
ทั้งนี้ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย นับตั้งแต่ปี 2009 โดยมูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศในปีที่แล้ว อยู่ที่ 484,120 ล้านริงกิต (109,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ที่มา: Xinhua และ Bloomberg (1), (2), สำนักข่าว อีไฟแนนซ์ไทย