กองทุนบัวหลวงเสนอขาย “กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลหุ้นระยะยาว” (B-TOPTENLTF) เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 11-19 มีนาคมนี้ โดยมีนโยบายลงทุนที่คัดสรรหุ้นเด่นอย่างพิถีพิถัน 10 บริษัทที่มีพื้นฐานดี เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนรวมสูง ภายใต้แนวคิดเดียวกันกับ 2 กองทุนในตระกูลทศพล ผสมผสานกับจุดเด่นของกองทุน LTF ที่เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงเสนอขายหน่วยลงทุน กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลหุ้นระยะยาว (B-TOPTENLTF) เป็นครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 11–19 มีนาคม 2562 โดยกองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับ กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล (BTP) และ ‘กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลเพื่อการเลี้ยงชีพ’ (B-TOPTENRMF) คือ คัดสรรลงทุนในหุ้น 10 บริษัทที่มีพื้นฐานดี มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งกองทุนใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
“กองทุน B-TOPTENLTF เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในกองทุนหุ้นมาแล้ว ที่เข้าใจธรรมชาติการลงทุนในตลาดหุ้นว่า มีความเสี่ยง อีกทั้งมองหากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่คัดเลือกลงทุนหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงบริษัทจำนวนไม่มาก จึงมีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังมากด้วยเช่นกัน
ในภาวะที่สถานการณ์แวดล้อมมีความไม่แน่นอน การลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรือ Stay Invested ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น การเฟ้นหาหุ้นที่ดีจึงมีความสำคัญมาก ไม่ใช่การซื้อกระจายทั้งตลาด ดังนั้น ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของทีมงานผู้จัดการกองทุน หรือนักวิเคราะห์ ในการคัดเลือกหุ้นอย่างพิถีพิถันและรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่แตกต่าง ซึ่ง B-TOPTENLTF ก็ตอบโจทย์นี้ เพราะเลือกเฟ้นหุ้นเด่นอย่างพิถีพิถัน 10 บริษัท” นายวศิน กล่าว
การลงทุนในกองทุน LTF มีเงื่อนไขเฉพาะในการถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลา 7 ปีปฏิทินขึ้นไป ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนได้เรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์การลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และสามารถชนะความผันผวนของตลาดในระยะสั้น
สำหรับมุมมองของกองทุนบัวหลวงในระยะเวลา 5-10 ปีข้างหน้า ยังเห็นภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว ขณะที่การขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลางทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเราดีขึ้น เกิดการใช้จ่ายกับสินค้าและบริการที่มีพรีเมี่ยมมากขึ้น ธุรกิจที่สามารถปรับตัวและนำเสนอบริการควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงนี้ก็จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดบัวหลวงทศพล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ช่วงระยะเวลา 3 เดือน อยู่ที่ 3.86%, 6 เดือน อยู่ที่ 0.52%, 1 ปี อยู่ที่ -2.50% ต่อปี, 3 ปี อยู่ที่ 14.29% ต่อปี, 5 ปีอยู่ที่ 9.46% ต่อปี, 7 ปีอยู่ที่ 13.25% ต่อปี, 10 ปี อยู่ที่ 19.25% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนได้รับผลตอบแทน อยู่ที่ 6.86% ต่อปี ขณะที่ ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนเปิดบัวหลวงทศพลเพื่อการเลี้ยงชีพ ช่วงระยะเวลา 3 เดือน อยู่ที่ 3.75%, 6 เดือน อยู่ที่ 0.35% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน อยู่ที่ -4.93% ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนสำหรับช่วงระยะเวลาเดียวกัน อยู่ที่ 3 เดือน อยู่ที่ 1.12%, 6 เดือน อยู่ที่ -3.13%, 1 ปี อยู่ที่ -6.83% ต่อปี, 3 ปี อยู่ที่ 10.90% ต่อปี, 5 ปีอยู่ที่ 7.90% ต่อปี, 7 ปีอยู่ที่ 8.61% ต่อปี และ 10 ปี อยู่ที่ 18.65% ต่อปี ตามลำดับ
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-TOPTENLTF ได้ที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 02 674 6488 กด 8 หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ตัวแทนขายของกรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง
และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน LTF ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต