ข่าวประชาสัมพันธ์
Press Release
นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า ในภาวะที่ตลาดทุนมีความผันผวนอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผนวกกับการที่ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้งด้วยกัน จึงทําให้นักลงทุนมีความกังวลต่อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ ทางผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก ที่จะได้อานิสงส์จากการที่ประเทศต่างๆ จะต้องมีการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่ล้าหลังและเพื่อรองรับโลกในยุคที่ต้องเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ หรือ net zero carbon emission อีกด้วย
ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงไฟฟ้า ท่าเรือ สนามบิน ทางด่วน รถไฟ พลังงาน น้ำ และโครงข่ายการสื่อสารถือเป็นธุรกิจที่ล้วนมีความสําคัญต่อการพัฒนาประเทศ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานมีสัญญาบริการแบบระยะยาวและมีความต้องการใช้สม่ำเสมอ ไม่ค่อยเป็นไปตามวัฏจักรธุรกิจ รายรับมักสามารถปรับขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในภาวะความผันผวนสูงเช่นปัจุบัน
ทั้งนี้ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ประเมินว่า ระหว่างปี 2018-2040 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับธุรกิจไฟฟ้าจะมีเม็ดเงินการลงทุนมากถึง 20 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ 8.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และการวางระบบสายส่งและกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่จะมีเงินลงทุนประมาณ 8.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
“วันนี้ เมื่อแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เพื่อรองรับอนาคตชัดเจนขนาดนี้ ประกอบกับปีนี้เองก็เป็นปีที่ทั่วโลกคงต้องเผชิญกับเงินเฟ้อ BBLAM จึงมองว่า เป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนจะจัดสรรเงินไปลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว” นายสันติ กล่าว
BBLAM เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ หรือ B-GLOB-INFRA ระหว่างวันที่ 9-15 มีนาคม 2565 ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ 500 บาท โดยพิเศษช่วง IPO คิดค่าธรรมเนียมการขายในอัตรา 0.75% จากปกติ 1.50%
กองทุน B-GLOB-INFRA เป็นกองทุน Feeder funds ที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล โดยจะไปลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว คือ Legg Mason ClearBridge Global Infrastructure Income Fund ภายใต้การบริหารจัดการของ ClearBridge Investments บริษัทในเครือของ Franklin Templeton ที่เชี่ยวชาญการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก โดยกองทุนนี้จะไปลงทุนในหุ้นเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก เน้นบริษัทที่มีกระแสเงินสดรับสม่ำเสมอ มีรายรับที่มั่นคงจากสัญญาระยะยาว และเป็นสินทรัพย์ที่ข่วยลดความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้
จุดเด่นของกองทุนหลัก คือ มีผู้จัดการกองทุนหลัก พร้อมทีมงานขนาดใหญ่ เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่สำคัญยังมีการนำเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) มาใช้ประเมินความเสี่ยงและหาโอกาสการลงทุนด้วย
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-GLOB-INFRA หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่ BBLAM โทร. 02-674-6488 กด 8 ดูข้อมูลได้ที่ www.bblam.co.th หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี บจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา บจ.หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ และบมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)
นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนได้ง่าย ผานโมบายแบงก์กิ้ง จาก ธนาคารกรุงเทพ และ BF Fund Trading จาก BBLAM
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
BBLAM
8 มีนาคม 2565