INVESTMENT STRATEGY
ภาวะตลาดหมีนั้นมี 3 แบบ ซึ่งแบบที่เกิดในตอนนี้ เข้าข่ายภาวะตลาดหมีที่อาจใช้เวลานานในการฟื้นตัว การลงทุนในกองทุนหุ้น ยังทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลงทุนในคราวเดียว แนะนำให้ใช้วิธี DCA โดยเน้นไปที่กองทุนที่สามารถปรับตัวตามเงินเฟ้อได้
เราได้นำเสนอกับนักลงทุนใน BBLAM Weekly Investment Insights ประจำวันที่ 17 – 20 พฤษภาคม 2022 ไปแล้วว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นหลายตลาดทั่วโลกเข้าสู่ภาวะตลาดหมีแล้ว ในครั้งนี้ทีม Investment Strategist จาก BBLAM จะมาแนะนำกลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนแต่ละกลุ่มกัน
เท้าความถึงคำนิยามของตลาดหมี คือ ดัชนีที่ปรับตัวลงมาจากจุดสูงสุดเกิน 20% ซึ่งสภาวะตลาดปัจจุบัน ตลาดที่เข้าสู่ตลาดหมีแล้ว คือ ตลาด Nasdaq ตลาด Hang Seng (HSI Index) ตลาด China A-shares (CSI300) และ Asia Ex Japan
ทั้งนี้ ลักษณะของตลาดหมี มี 3 ประเภท คือ
ตลาดหมีที่ค่อนข้างรุนแรง ส่วนใหญ่เกิดจากวิกฤติทางการเงินที่มีผลกระทบทั่วโลก เช่น ในปี 2007 ที่เกิดวิกฤติการเงินโลก หรือช่วงปี 2000 ที่เกิดวิกฤติฟองสบู่ดอทคอม ซึ่งปกติแล้วภาวะแบบนี้ตลาดจะตกลงไปมากกว่า 40% และใช้เวลามากกว่า 5 ปีในการฟื้นตัว
ตลาดหมีแบบไม่รุนแรง เป็นผลจากเศรษฐกิจถดถอยระยะสั้นๆ เช่น ปี 1956 หรือ ปี 1968 หรือในช่วงปี 1980 ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง แต่ในช่วงต้นวิกฤติมูลค่าตลาดไม่แพง ในกรณีนี้ ตลาดจะถูกเทขายน้อยกว่ากรณีแรก โดยตลาดจะปรับลงไปประมาณ 20-30% และใช้เวลาน้อยกว่า 3 ปี ในการฟื้นกลับมา
ตลาดหมีที่เกิดจากเหตุการณ์เฉพาะเจาะจง ที่สามารถฟื้นตัวได้ภายใน 2 ปี และไม่มีเหตุการณ์เศรษฐกิจถดถอยมาเกี่ยวข้อง เช่น เหตุการณ์ Black Monday ในปี 1987 หรือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในปี 2020 ที่อาจจะเข้าข่ายเหตุการณ์เฉพาะ เพราะตลาดผันผวนในช่วง 2-3 เดือนแรก และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับภาวะตลาดหมีในปัจจุบัน เข้าข่าย กรณีที่ 1 หรือกรณีที่ 2 ดังนั้นตีความได้ว่า ตลาดหมีอาจจะอยู่กับนักลงทุนต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง ดัชนีอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อฟื้นตัว
BBLAM แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในภาวะตลาดหมี สำหรับนักลงทุน 3 กลุ่มนี้
คนวัยเกษียณ – การลงทุนในวัยเกษียณ ช่วงภาวะตลาดหมี มีความสำคัญต่อพอร์ตโฟลิโออย่างมาก เพราะธรรมชาติของนักลงทุนในวัยเกษียณจะไม่ได้ลงทุนยาวมาก รับความเสี่ยงได้น้อย กลยุทธ์ที่แนะนำคือ
คนวัยทำงานที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง – หากสามารถรับความเสี่ยงได้ปานกลาง
คนวัยทำงานที่รับความเสี่ยงได้สูง – หากนักลงทุนมีระยะเวลาการลงทุนเกิน 5 ปีขึ้นไป ในช่วงภาวะตลาดหมี เป็นจังหวะลงทุน ที่แท้จริงแล้วจะให้ผลตอบแทนดีกว่าการลงทุนในช่วงตลาดกระทิง เพราะอายุของตลาดหมีจะสั้นกว่าตลาดกระทิงเสมอ และทุกๆ ครั้งที่เกิดภาวะตลาดหมี จะมีตลาดกระทิงตามมา โดยหลักแล้ว ยิ่งมีระยะเวลาในการลงทุนได้นาน โอกาสที่จะได้ผลตอบแทนติดลบก็น้อยลง
อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า ไม่ต้องรีบร้อนลงทุนในคราวเดียว แต่ให้ทยอยลงทุน โดยมองหาโอกาสลงทุน ดังนี้
ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า การลงทุนในช่วงตลาดหมีแบบนี้ก็ยังมีความเสี่ยงขาลงอยู่ ดังนั้นนักลงทุนจะต้องแน่ใจว่า ตัวเองเป็นผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงจริงๆ และลงทุนในระยะเวลาที่ยาวเพียงพอได้จริงเช่นกัน
แนะนำกองทุน B-GLOB-INFRA, BCARE, B-INNOTECH, B-CHINE-EQ และ B-SIP และถ้าต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แนะนำกองทุน B-INNOTECHSSF, B-INNOTECHRMF, B-CHINESSF, B-CHINAARMF, B-SIPSSF และ B-SIPRMF
อ่าน BBLAM Weekly Investment Insights 23 – 27 พฤษภาคม 2022 ฉบับเต็มได้ที่
https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/23-27-2022