สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2567 และ 2568 ขึ้นปีละ 0.4% สู่ระดับ 5% และ 4.5% ตามลำดับ หลังพบว่าเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกของปีนี้แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ หลังก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่า GDP ของจีนในปี 2567 จะขยายตัวที่ระดับ 4.6% อย่างไรก็ตาม ได้เตือนว่า การเติบโตจะช้าลงในปีต่อๆ ไป
การคาดการณ์ครั้งใหม่ของ IMF เกิดขึ้น หลังรัฐบาลจีนพยายามเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา หลังจีนต้องเผชิญกับการเติบโตที่อ่อนแอ เนื่องมาจากวิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริโภค และธุรกิจในภาคต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี IMF กล่าวเตือนว่า การเติบโตจะชะลอตัวลงเหลือ 3.3% ในปี 2572 เนื่องจากประชากรสูงวัยมีจำนวนเพิ่มขึ้น และการขยายตัวด้านการผลิตที่ชะลอตัวลง
Gita Gopinath รองกรรมการผู้จัดการของ IMF ระบุว่า “การปรับเพิ่มคาดการณ์ในปีนี้เป็นไปตามการเติบโตของ GDP ในไตรมาสแรกซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ และรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการนโยบายเพิ่มเติมบางอย่าง เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ” ซึ่งการปรับเพิ่มคาดการณ์ครั้งนี้ของ IMF สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาลจีน ที่ระดับ 5% ซึ่งดูเหมือนว่า การเติบโตดังกล่าวจะบรรลุเป้าหมาย หลังจากที่ไตรมาสแรกของปีนี้ เศรษฐกิจจีนเติบโต 5.3% แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากการหดตัวทางเศรษฐกิจ และวิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ ซึ่งยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ BNP Paribas คาดว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ 5% ในขณะที่ Goldman Sachs ได้เพิ่มคาดการณ์สำหรับปี 2567 เป็น 5% จากระดับ 4.8% ขณะที่ Citi ยังปรับเพิ่มคาดการณ์เป็น 5% จากระดับ 4.6% เช่นกัน โดยทั้งหมดอ้างถึงข้อมูลทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง
ที่มา: รอยเตอร์