บ.ญี่ปุ่นเล็งปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 33 ปี

บ.ญี่ปุ่นเล็งปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 33 ปี

สมาพันธ์สหภาพการค้าของญี่ปุ่น หรือเรนโก (Rengo) เปิดเผยในวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า บริษัทกลุ่มหนึ่งในญี่ปุ่นเห็นพ้องกันที่จะปรับขึ้นค่าจ้าง 5.24% ในปีนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การประกาศครั้งที่ 3 เกี่ยวกับผลลัพธ์ของการเจรจาค่าจ้างประจำปีนั้น น้อยกว่าผลการสำรวจในครั้งที่ 2 ที่ 5.25% และผลสำรวจในครั้งแรกที่ 5.28% เมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าจ้างดังกล่าวนับว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2534 ซึ่งเพิ่มขึ้นที่ 5.66% ผลการเจรจาการค่าจ้างที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดนี้จะประกาศเป็นระยะๆ โดยเริ่มจากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในช่วงกลางเดือนมี.ค. การปรับขึ้นค่าจ้างมีแนวโน้มจะหดตัวลงจากการเจรจาในเบื้องต้น เนื่องจากมีบริษัทขนาดเล็กจำนวนมากขึ้นมาเข้าร่วมสรุปการเจรจาในไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. ผลการสำรวจครั้งถัดไปมีกำหนดการเผยแพร่ออกมาในวันที่ 18 เม.ย. ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำของญี่ปุ่น คาดหวังให้ขึ้นค่าจ้างเพื่อนำพาญี่ปุ่นออกจากภาวะเงินฝืดที่ยาวนานกว่า 20 ปี ในขณะที่นายคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เน้นย้ำว่า การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างอย่างยั่งยืนและเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการยกเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ ที่มา: รอยเตอร์

อินเดียดันฐานการผลิตแทนจีน เวียดนามยังยืนหนึ่งเป้าหมายหลักของหลายบริษัท

อินเดียดันฐานการผลิตแทนจีน เวียดนามยังยืนหนึ่งเป้าหมายหลักของหลายบริษัท

อินเดียต้องการเป็นฐานการผลิตระดับชั้นนำในเอเชีย เนื่องจากบริษัทหลายแห่งได้เคลื่อนย้ายออกจากจีน แต่สิ่งแรกที่อินเดียจำต้องทำ คือ ลดภาษีและปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ให้ดีขึ้น หากว่า อินเดียต้องการจะแย่งชิงตำแหน่งนี้จากเวียดนาม สหรัฐอเมริกาพยายามให้การสนับสนุนพันธมิตร ในขณะที่การแข่งขันกับจีนรุนแรงมากขึ้น โดยรัฐบาลไบเดนได้ส่งเสริมบริษัทอเมริกันหลายแห่งให้ย้ายการปฏิบัติงานภาคการผลิตในภาคธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีออกจากจีนและเข้าไปยังประเทศที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม อินเดีย และเอเชียแปซิฟิก อินเดียและเวียดนามเป็นทางเลือกในภาคการผลิตที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติและบริษัทหลายๆ แห่ง  บางส่วนเป็นเหตุผลมาจากค่าแรงงานที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม ในระหว่าง 2 ประเทศนี้ เวียดนามยังคงนำหน้าอินเดียด้วยมูลค่าการส่งออกในปี 2566 สุทธิที่ 96,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เปรียบเทียบกับมูลค่าส่งออกของอินเดียที่ 75,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซาเมียร์ คาปาเดีย (Samir Kapadia) CEO ของบริษัท India Index และประธานบริหารของกลุ่มบริษัท Vogel กล่าวว่า “เวียดนามมีชื่อเสียงจากความสามารถของพวกเขาในการผลิตภาคอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนอินเดียกำลังเพิ่งเริ่มเข้าสู่การแข่งขันนั้น เพื่อที่ว่าทำให้เวียดนามยังมีข้อได้เปรียบเชิงแข่งขันเมื่อเทียบกับอินเดีย” ขณะที่ ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ของอินเดียนั้นอบอุ่น […]

ทองคำพุ่งทำนิวไฮต่อเนื่อง ดอกเบี้ยขาลง และดีมานด์จากจีนช่วยดันราคาสูงขึ้น

ทองคำพุ่งทำนิวไฮต่อเนื่อง ดอกเบี้ยขาลง และดีมานด์จากจีนช่วยดันราคาสูงขึ้น

ทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด เข้าใกล้การลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กับการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของจีน ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นสูงถึง 2,265.73 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันจันทร์ เพิ่มขึ้น 1.6% จากราคาปิดของวันพฤหัสบดี หลังจากทำจุดสูงสุดมาอย่างต่อเนื่องในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งเป็นดัชนีการใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลหลักที่เฟดต้องการ ปรับตัวลดลงในเดือนกุมภาพันธ์ จากข้อมูลที่สหรัฐฯ เผยเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหลายแห่งทั่วโลกปิดทำการ โดยจะเป็นตัวเลขที่สนับสนุนความเป็นไปสำหรับการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้ว่าธนาคารกลางจะยังมีท่าทีที่ค่อนข้างระมัดระวังก็ตาม ปัจจัยขับเคลื่อนเชิงบวกมากมายได้ผลักดันทองคำแท่งขึ้นประมาณ 14% นับตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ จากแนวโน้มการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางรายใหญ่ และความตึงเครียดที่สูงขึ้นในตะวันออกกลางและยูเครนเป็นปัจจัยหนุนการแรลลี่ในครั้งนี้ ซึ่งธนาคารกลางก็มีการซื้อทองคำที่แข็งแกร่งเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ในขณะที่ ผู้บริโภคก็ซื้อทองคำแท่งเพิ่มขึ้น ท่ามกลางปัญหาที่กำลังดำเนินอยู่ในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย หลังจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างสอดคล้องกับความคาดหวังของเฟด และไม่มีการเร่งรีบในการลดอัตราดอกเบี้ย โดยในปลายสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะมีมุมมองที่ชัดเจนมากขึ้นสำหรับการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายของธนาคารกลาง โดยคาดว่าจะจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 200,000 รายเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน วอร์เรน แพตเตอร์สัน […]

World Bank ปรับลดคาดการณ์เติบโตของ ศก.ไทยปี 67 เหลือ 2.8%

World Bank ปรับลดคาดการณ์เติบโตของ ศก.ไทยปี 67 เหลือ 2.8%

สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2567 ลงเหลือ 2.8 เปอร์เซ็นต์ จากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่คาดว่าจะโต 3.2 เปอร์เซ็นต์ และปรับคาดการณ์การเติบโตของปี 2568 เหลือ 3.0 เปอร์เซ็นต์ จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ที่คาดว่าจะโต 3.1 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารโลกกล่าวว่า การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2567 นี้จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ของระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่มา: รอยเตอร์

แบงก์ชาติเกาหลีใต้แทรกแซงตลาด FX เข้าซื้อดอลลาร์ใน Q4/66 หวังชะลอวอนแข็งค่า

แบงก์ชาติเกาหลีใต้แทรกแซงตลาด FX เข้าซื้อดอลลาร์ใน Q4/66 หวังชะลอวอนแข็งค่า

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ระบุในวันนี้ (29 มี.ค.) ว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสุทธิ 1.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4/2566 (เดือนต.ค.-ธ.ค.) ตามแผนแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเกาหลีใต้ เพื่อสกัดไม่ให้เงินวอนแข็งค่าขึ้นอีก รายงานระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐติดต่อกัน 9 ไตรมาสเพื่อสกัดไม่ให้เงินวอนอ่อนค่าลง “การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดในช่วงที่เกิดความผันผวนมากเกินไป อันเนื่องจากพฤติกรรมการแห่ทำตามฝูงชน” นายคิม ชินยัง หัวหน้าคณะทำงานตลาดปริวรรตเงินตราของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การดำเนินการในไตรมาส 4/2566 นับเป็นการดำเนินการซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินวอนเป็นครั้งแรกของธนาคารกลางเกาหลีใต้นับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ในไตรมาส 4/2566 อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ-วอนปรับลดลง 4.5% ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงในดัชนีดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุล ที่มา: รอยเตอร์

จีนมั่นใจเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก เปิดกว้างรับนักลงทุนต่างชาติ

จีนมั่นใจเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก เปิดกว้างรับนักลงทุนต่างชาติ

นายจ้าว เล่อจี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน เปิดเผยในวันนี้ (28 มี.ค.) ว่า จีนตั้งเป้าที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ผ่านการขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และส่งเสริมการเติบโตที่มีคุณภาพสูง นายจ้าว ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติของจีน กล่าวในระหว่างเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (Boao Forum for Asia) ประจำปีว่า จีนจะทำให้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยินดีที่จะร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ในด้านนี้ นายจ้าวได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การนำเข้าและส่งออกสินค้าของจีนมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทะลุระดับ 32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดเมื่อไม่นานมานี้ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มต้นปี 2567 อย่างสดใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทางการจีน ในขณะที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่ามกลางความซบเซาของภาคอสังหาริมทรัพย์และหนี้สินในระดับสูงของรัฐบาลท้องถิ่น นอกจากนี้ นายจ้าวยังให้คำมั่นว่าจะเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และปรับลดรายการข้อจำกัดและข้อห้าม (Negative List) ในการลงทุนสำหรับบริษัทต่างชาติ ทั้งนี้ […]

รมว.คลังญี่ปุ่น ออกคำเตือนครั้งใหม่ เตรียมดำเนินการขั้นเด็ดขาด หลังเงินเยนอ่อนค่าหนัก

รมว.คลังญี่ปุ่น ออกคำเตือนครั้งใหม่ เตรียมดำเนินการขั้นเด็ดขาด หลังเงินเยนอ่อนค่าหนัก

รมว.คลังญี่ปุ่น ออกคำเตือนครั้งใหม่ เตรียมดำเนินการขั้นเด็ดขาด หลัง “เงินเยน” อ่อนค่ามากสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยล่าสุดซื้อขายที่ 151.97 เยนต่อดอลลาร์ วันที่ 27 มีนาคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายชุนนิจิ ซูซูกิ (Shunichi Suzuki) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ออกคำเตือนที่รุนแรงที่สุดจนถึงปัจจุบันเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินเยน เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยระบุว่าทางการอาจดำเนินการขั้นเด็ดขาด รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นใช้คำว่า “ขั้นตอนเด็ดขาด” ครั้งล่าสุดในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565 เมื่อญี่ปุ่นเข้ามาแทรกแซงตลาดครั้งสุดท้ายเพื่อหยุดยั้งการอ่อนค่าของเงินเยน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นแสดงความเห็นเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2567 ไม่นานหลังจากที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากข้อมูลสหรัฐที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 34 ปี และเข้าสู่โซนที่ทางการแทรกแซงตลาดในปี 2565 โดยเงินเยนซื้อขายที่ 151.97 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเอเชีย ลดลงประมาณ 0.2% และอ่อนค่ากว่า 151.94 เยนต่อดอลลาร์ […]

ฝรั่งเศสขาดดุลงบประมาณเกินเป้าในปี 2566 เหตุศก.โตอ่อนแอเกินคาด

ฝรั่งเศสขาดดุลงบประมาณเกินเป้าในปี 2566 เหตุศก.โตอ่อนแอเกินคาด

ข้อมูลล่าสุดเปิดเผยในวันนี้ (26 มี.ค.) ว่า ฝรั่งเศสประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณภาครัฐเพิ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้วมากกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลในการพยายามรักษาแผนลดการขาดดุลให้เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (INSEE) ระบุว่า งบประมาณภาครัฐประจำปี 2566 แสดงให้เห็นว่าการขาดดุลทางการคลังอยู่ที่ 5.5% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจ สูงขึ้นจากระดับ 4.8% ในปี 2565 และมากกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 4.9% อย่างมีนัยสำคัญ นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ส่งผลให้รายได้จากภาษีลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการขาดดุลที่เพิ่มขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะเตือนล่วงหน้าแล้วว่า การขาดดุลจะเป็นไปในทิศทางที่แย่กว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังคงเป็นข่าวร้ายอยู่ดี เพราะนี่หมายความว่า ฝรั่งเศสจะต้องหาทางประหยัดงบประมาณเพิ่มเติมในปีนี้ เพื่อให้สามารถรักษาเป้าหมายการขาดดุลที่ 4.1% ในปี 2567 รัฐบาลฝรั่งเศสได้ประกาศแผนการตัดงบประมาณเพิ่มเติมอีก 1 หมื่นล้านยูโร (1.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แล้วในปีนี้ และระบุว่า อาจจะต้องมีการออกกฎหมายในช่วงกลางปีเพื่อหาทางประหยัดงบประมาณเพิ่มเติม “ผมเรียกร้องให้เราทุกคนตื่นตัวและร่วมกันตัดสินใจในการใช้จ่ายภาครัฐทั้งหมด” นายเลอ แมร์ […]

นักวิเคราะห์ชี้ เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณพร้อมหนุนตลาดแรงงาน แม้ส่งผลเงินเฟ้อยืดเยื้อสักระยะ

นักวิเคราะห์ชี้ เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณพร้อมหนุนตลาดแรงงาน แม้ส่งผลเงินเฟ้อยืดเยื้อสักระยะ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ พุ่งสูงในปี 2565 ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ได้ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างจนส่งผลกระทบให้ราคาสินค้าพุ่งสูงมากเกินไป จนถึงปัจจุบัน พบว่า อัตราว่างงานยังคงเพิ่มขึ้น แต่เฟดก็ได้เริ่มส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อลดความเสี่ยงจากการปลดคนงานออกมากจนเกินไป แม้จะนำไปสู่การเกิดอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเล็กน้อยไปอีกสักระยะก็ตาม นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวในช่วงแถลงข่าวหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อวันพุธที่แล้ว โดยประกาศว่า อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นเกิดคาดของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้เฟดพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย และย้ำถึงประเด็นนี้หลายครั้งในการตอบคำถามสื่อมวลชน ประธานเฟด กล่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า “แม้เฟดจะต้องการรอให้แน่ใจว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อประสบความสำเร็จก่อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ย แต่หากมีสัญญาณความอ่อนแอเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดในตลาดแรงงานก็อาจเป็นเหตุผลให้เฟดใช้มาตรการตอบสนองทางนโยบายได้เช่นกัน” นายเจอโรม กล่าวว่า เขายังไม่เห็นสัญญาณความเปราะบางใดๆ ในตลาดแรงงานขณะนี้ แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนกลับลดมุมมองบวกลง โดยชี้ให้เห็นว่า อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในหลายรัฐ รวมไปถึงการลดจำนวนพนักงานชั่วคราวและชั่วโมงการทำงานลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี นายเจอโรมและคณะกรรมการ FOMC ยังคงเฝ้าจับตาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจอ่อนแอลงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากในอดีตนั้น เมื่ออัตราการว่างงานเริ่มสูงขึ้น ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะบริษัทต่างๆ พากันประกาศปรับลดพนักงานตามๆ กัน ท่าทีของนายเจอโรมดูเหมือนจะพยายามเร่งกระบวนการลดอัตราดอกเบี้ยให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยยังคงยืนหยัดถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย […]

BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกภายในต.ค.ปีนี้ คาดเยนอ่อนยวบเป็นปัจจัยเร่ง

BOJ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกภายในต.ค.ปีนี้ คาดเยนอ่อนยวบเป็นปัจจัยเร่ง

นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในเดือนต.ค.ปีนี้ และอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ BOJ ดำเนินการดังกล่าว หลังจาก BOJ ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0 ถึง 0.1% จากระดับ -0.1% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (19 มี.ค.) นักวิเคราะห์ 70% ของจำนวน 47 คนที่ได้รับการสำรวจโดยบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในเดือนต.ค. ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า นักเศรษฐศาสตร์ตระหนักถึงความเสี่ยงที่นายคาซูโอะ อุเอดะ และกรรมการคนอื่นๆ ของ BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แม้ว่า BOJ ได้ส่งสัญญาณว่าจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีในการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังจากการประชุมวันดังกล่าว เงินเยนอ่อนค่าลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนตีความถ้อยแถลงของนายอุเอดะว่า BOJ จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป และที่ประชุม BOJ […]