ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในเดือนแรกของปี 2561 ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งหนุนด้วยราคาน้ำมันในตลาดโลก และหุ้นกลุ่มพาณิชย์บางตัวด้วยความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ขณะที่มีการขายทำกำไรหุ้นบางตัวที่ราคาปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มท่องเที่ยว หรือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์นั้นผลประกอบการในไตรมาส 4/60 ที่ประกาศออกมาค่อนข้างต่ำกว่าที่ตลาดคาด
ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดเริ่มมีการปรับฐานลงหลังจากที่การเลือกตั้งในประเทศมีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดกันว่าจะถูกจัดขึ้นภายในปีนี้ และยังมีประเด็นความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯเร็วกว่าที่คาด ทำให้เกิดแรงขายหนักในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯและจีน ซึ่งเชื่อว่า แรงขายทำกำไรนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ยังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี
แม้จะมีการปรับฐานบ้างแล้ว ระดับ P/E ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2561 ยังอยู่ที่ระดับมากกว่า 16.5 เท่า นับว่าตึงตัวพอสมควร แต่ว่าระดับ Valuation ของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีความแตกต่างกัน จึงมีหุ้นไทยบางส่วนที่ยังมีความน่าสนใจลงทุนอยู่ ขณะที่บางกลุ่มก็มีราคาแพงเกินพื้นฐาน การเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง และหนุนให้การคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี และควรต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงเกินไปให้มากขึ้น
Fund Comment Investment Market Summary SET Stocks Thailand
ภาพรวมตลาดหุ้น มกราคม 2561
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในเดือนแรกของปี 2561 ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งหนุนด้วยราคาน้ำมันในตลาดโลก และหุ้นกลุ่มพาณิชย์บางตัวด้วยความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ขณะที่มีการขายทำกำไรหุ้นบางตัวที่ราคาปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มท่องเที่ยว หรือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์นั้นผลประกอบการในไตรมาส 4/60 ที่ประกาศออกมาค่อนข้างต่ำกว่าที่ตลาดคาด
ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดเริ่มมีการปรับฐานลงหลังจากที่การเลือกตั้งในประเทศมีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดกันว่าจะถูกจัดขึ้นภายในปีนี้ และยังมีประเด็นความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯเร็วกว่าที่คาด ทำให้เกิดแรงขายหนักในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯและจีน ซึ่งเชื่อว่า แรงขายทำกำไรนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ยังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี
แม้จะมีการปรับฐานบ้างแล้ว ระดับ P/E ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2561 ยังอยู่ที่ระดับมากกว่า 16.5 เท่า นับว่าตึงตัวพอสมควร แต่ว่าระดับ Valuation ของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีความแตกต่างกัน จึงมีหุ้นไทยบางส่วนที่ยังมีความน่าสนใจลงทุนอยู่ ขณะที่บางกลุ่มก็มีราคาแพงเกินพื้นฐาน การเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง และหนุนให้การคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี และควรต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงเกินไปให้มากขึ้น