จีนยกเว้นภาษีเงินได้ นลท.ต่างชาติ เทรดสัญญาน้ำมันดิบสกุลหยวน

จีนยกเว้นภาษีเงินได้ นลท.ต่างชาติ เทรดสัญญาน้ำมันดิบสกุลหยวน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงการคลังจีนประกาศจะยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นักลงทุนต่างชาติที่ทำการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบสกุลเงินหยวน โดยการยกเว้นภาษีดังกล่าวจะครอบคลุมทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย บริษัทโบรกเกอร์ต่างชาติจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้จากค่าคอมมิชชันที่บริษัทเหล่านี้ได้รับจากการทำข้อตกลงซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบในรูปสกุลเงินหยวน นักวิเคราะห์มองว่านโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบสกุลเงินหยวนที่จะมีการเปิดตัวในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ที่ตลาด Shanghai International Energy Exchange ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจีนระบุว่า ทางกระทรวงจะยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 3 ปีให้กับนักลงทุนต่างชาติรายย่อยที่ซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบสกุลเงินหยวน แต่ยังไม่ได้ระบุระยะเวลาการยกเว้นภาษีสำหรับนักลงทุนสถาบัน พร้อมยกเว้นภาษีสำหรับการซื้อขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆที่เปิดให้กับนักลงทุนต่างชาติ ตามที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาจีน

รู้จักตลาดหุ้นจีน

รู้จักตลาดหุ้นจีน

By…จันทร์เพ็ญ กิตติเวทย์วิทยา, Fund Management BF Knowledge Center หากพูดถึงเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศจีนแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าตลาดหุ้นจีนมีความยักษ์ใหญ่ไม่แพ้ตลาดหุ้นหลักใหญ่ๆของโลก ไม่ว่าจะเป็น New York Stock Exchange , S&P500, Nasdaq ประเทศจีนมีตลาดหุ้น 3 ตลาดหลัก ได้แก่ Shanghai Stock Exchange (SSE),  Shenzhen Stock Exchange (SZSE)  และ Hong Kong Stock Exchange (HKEX) โดยตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน คือ Shanghai Stock Exchange (SSE) ซึ่งมี Market cap.ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกที่ $4.27 Trillion ขณะที่ตลาดหุ้นที่เหลือของจีนได้แก่ Hong […]

หุ้นไทยบวกกว่า 9 จุด ปิดที่ 1,828.88 จุด

หุ้นไทยบวกกว่า 9 จุด ปิดที่ 1,828.88 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (26 ม.ค. 61) ที่ระดับ 1,828.88 จุด เพิ่มขึ้น 9.59 จุด หรือ 0.53% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,829.07 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,806.13 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 17.18 น. อยู่ที่ 78,534.81 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BANPU ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,541.95 ลบ. 2.PTTGC ปิดที่ 96.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]

หุ้นไทยปิดตลาดวันแรกปีจอ เฉียดทุบสถิติปี 37

หุ้นไทยปิดตลาดวันแรกปีจอ เฉียดทุบสถิติปี 37

ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดทำการซื้อขายหุ้นวันแรกของปีจอ 2561 ปิดตลาด 1,778.53 จุด เฉียดทุบสถิติเก่าที่ทำไว้ที่ 1,789.16 จุด เมื่อวันที่ 04 มกราคม 2537 นับรวมเวลากว่า 24 ปี ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 มกราคม 2561 ปิดตลาดที่ 1778.53 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +24.82 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.42% ระหว่างวัน ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,779.55 จุด และปรับตัวลงลงต่ำสุดที่ 1,758.07 จุด นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.กล่าวว่า การปรับขึ้นของ SET Index แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการลงทุนซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) ปรับขึ้นสูงสุดเป็น 18.17 ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายรวม […]

มุมมองตลาดหุ้น

มุมมองตลาดหุ้น

โอกาสเก็บหุ้นดีราคาถูก ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Side-ways โดยนักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยสุทธิเป็นมูลค่ากว่า 18,800 ล้านบาท แต่ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศยังช่วยพยุงให้ SET Index ยืนระดับบริเวณ 1,700 จุดได้ ซึ่งในระหว่างเดือนดังกล่าว มีการขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ราคาปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่นั้น ราคายังค่อนข้างทรงตัว ได้แรงหนุนโดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มพลังงาน ตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงของการปรับฐาน เรามองว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีแนวโนมธุรกิจดี แต่ราคาย่อตัวลงมา และเริ่มมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจมากขึ้น ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องในปี 2561 ส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากนักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขผลกำไรมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันหุ้นให้ขึ้นต่อได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยที่มีผลตลาดหุ้นไทย ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ ยังไม่เห็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ดีปัจจัยในประเทศส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนตลาดมากกว่า เช่น การเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ หรือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศนั้น แม้จะมีความกังวลว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นต่างประเทศหลังจากมีความชัดเจนต่อการที่รัฐบาลสหรัฐฯจะอนุมัติแผนการลดภาษีนิติบุคคล แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศหลักๆทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ถือว่ายังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี และผลประกอบการที่ดีกว่าคาดการณ์ รวมถึงระดับ Valuation ที่ไม่ได้สูงนัก […]

แชมป์ตลาดหุ้นโลกในปี2017

แชมป์ตลาดหุ้นโลกในปี2017

ตลาดหุ้นของอาร์เจนติน่าเป็นแชมป์เปี้ยนตลาดหุ้นโลกในปี2017 โดยโต77% หรือโตมากกว่าตลาดหุ้นทั้งโลก ปี2016ตลาดหุ้นอาร์เจนติน่าโต45% จากแรงส่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีMauricio Macri ตลาดหุ้นที่เติบโตสูงสุดรองลงมาจาตลาดหุ้นอาร์เจนติน่าในปี2017คือ ตลาดหุ้นไนจีเรีย ซึ่งโต42% แม้ว่าจะมีปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ การโจมตีของพวกก่อการร้าย ค่าเงินที่อ่อนลง และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบล่าในช่วงที่ผ่านมา แต่ราคาน้ำมันได้ดีดตัวสูงขึ้น และธนาคารกลางของไนจีเรียได้อำนวยความสะดวกในการทำสว๊อปค่าเงิน ส่วนเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยแล้ว ตลาดหุ้นที่โตอันดับ3ของโลก คือตลาดหุ้นตุรกี แม้ว่าตุรกีจะมีปัญหาความพยายามที่จะก่อรัฐประหารในปี2016 และมีปัญหาการก่อการร้ายภายในประเทศ แต่ปีที่แล้วตลาดหุ้นเติบโตสูงถึง48% เนื่องจากนโยบายลดภาษีของรัฐบาล การให้การันตีการปล่อยกู้โดยรัฐบาลเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก จีดีพีของตุรกีโต11.1%ในปี2017 ตลาดหุ้นที่โตอันดับ4ของโลกคือ ตลาดฮั่งเส็งของฮ่องกงที่โต36% ฮ่องกงกลายเป็นตลาดหุ้นที่บริษัทเทคโนโลยี่นิยมไปทำไอพีโอแล้วจดทะเบียน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐยังคงสดใสมากปี2017 โดยดาวโจนส์โต25% ตลาดS&P 500โต19% ส่วนแนสแด็คโตสูงกว่าเพื่อนที่28% ส่วนตลาดหุ้นไทยในปี2017โต12% เทียบกับMSCI World Equity Index ที่โต22%

ภาพรวมตลาดหุ้น เดือนพฤศจิกายน

ภาพรวมตลาดหุ้น เดือนพฤศจิกายน

ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Side-ways ตลอดเดือนพฤศจิกายน โดยนักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยสุทธิเป็นมูลค่ากว่า 18,800 ล้านบาท แต่ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศยังช่วยพยุงให้ SET Index ยังยืนระดับบริเวณ 1,700 จุดได้ ซึ่งในระหว่างเดือนนี้ มีการขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ราคาปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่นั้น ราคายังค่อนข้างทรงตัว หนุนโดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มพลังงาน ตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงของการปรับฐาน เรามองว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มธุรกิจดีแต่ราคาย่อตัวลงมา และเริ่มมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจมากขึ้น โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องได้ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากนักลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขผลกำไรมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันหุ้นให้ขึ้นต่อได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ ยังไม่เห็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยปัจจัยในประเทศนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนตลาดมากกว่า เช่น การเลือกตั้งที่คาดจะเกิดขึ้นในปี 2561 หรือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศนั้น แม้จะมีความกังวลว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นต่างประเทศหลังจากมีความชัดเจนต่อการที่รัฐบาลสหรัฐฯจะอนุมัติแผนการลดภาษีนิติบุคคล แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ถือว่ายังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดและระดับ Valuation ที่ไม่ได้สูงนัก ทำให้เชื่อว่า ถ้ามีการปรับฐานในตลาดต่างประเทศจริง น่าจะไม่รุนแรงมากนัก

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 เพื่อการเลี้ยงชีพ (BBASICRMF) เดือนพฤศจิกายน 2560

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 เพื่อการเลี้ยงชีพ (BBASICRMF) เดือนพฤศจิกายน 2560

จุดเด่นของกองทุน ลงทุนในหุ้นของกิจการที่จำเป็น “ต้องกิน ต้องใช้” ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว พลังบริโภคที่เติบโตจากสังคมเมืองได้กระจายไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นจนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเองได้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ช่วยหนุนให้ธุรกิจหรือการค้าขยายไปสู่ประเทศในอาเซียน ซึ่งมีพลมืองไม่ต่ำกว่า 600 ล้านคน ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อลงทุนเข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร   มุมมองต่อตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นอีกในเดือนตุลาคม แต่ด้วยความผันผวนที่มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรหุ้นไทย โดยเป็นผู้ขายสุทธิด้วยมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาทในช่วงระหว่างเดือน แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะยังแสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นก็ตาม บริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 พบว่า หลายบริษัทมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่หุ้นหลายตัวกลับถูกขายทำกำไรแม้ว่าผลประกอบการจะออกมาดีก็ตาม โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ปรับตัวขึ้นมามาก ซึ่งอาจจะเป็นด้วย Valuation ที่ตึงตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ซึ่งเรามองว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มธุรกิจดีแต่ราคาย่อตัวลงมา และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องได้ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในปีหน้า แม้ว่าอาจจะยังไม่เห็นผลประกอบการที่ฟื้นตัวนักในปี 2560 ทำให้ราคาหุ้นถือว่าค่อนข้างตึงตัวเมื่อเทียบกับผลประกอบการที่ออกมา จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ นักลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขผลกำไรมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันหุ้นให้ขึ้นต่อได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ และหุ้นบางตัวที่ราคาพุ่งสะท้อนไปถึงผลประกอบการปีหน้าเร็วเกินไป อาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนดีเท่ากับช่วงที่ผ่านมา ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ […]

กองทุนเปิดกองทุนบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) เดือนพฤศจิกายน 2560

กองทุนเปิดกองทุนบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) เดือนพฤศจิกายน 2560

จุดเด่นของกองทุน เน้นลงทุนในหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (Value Stock) และมีแนวโน้มเติบโตทางธุรกิจสูง (Growth Potential) ทั้งในและต่างประเทศ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อลงทุนเข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร มีโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างลงทุนในรูปแบบเงินปันผล ตั้งแต่กองทุนดำเนินมาแล้วเพียง 1 ปี (เริ่ม 28 ต.ค. 2559) BBASICDLTF จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ครั้งที่ 1:16 ต.ค. 2560 หน่วยละ 0.22 บาท ครั้งที่ 2: 14 พ.ย. 2560 หน่วยละ 0.08 บาท รวมทั้งหมด 2 ครั้ง รวมเป็นเงินปันผลสะสมหน่วยละ 0.30 บาท   […]

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 (BBASIC) เดือนพฤศจิกายน 2560

กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 (BBASIC) เดือนพฤศจิกายน 2560

จุดเด่นของกองทุน 1) ลงทุนในหุ้นของกิจการที่จำเป็น “ต้องกิน ต้องใช้” เพื่อให้ได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว โดยได้แรงหนุนจาก: พลังบริโภคที่เติบโตในสังคมเมืองแพร่ขยายไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเองได้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ช่วยหนุนให้ธุรกิจหรือการค้าขยายไปสู่ประเทศในอาเซียน ซึ่งมีพลมืองไม่ต่ำกว่า 600 ล้านคน 2) ตั้งแต่เปลี่ยนนโยบายกองทุนฯให้จ่ายเงินปันผล ซึ่งดำเนินมาแล้วเกือบ 4 ปี (เริ่ม 14 ธ.ค. 2556) BBASIC จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ครั้งที่ 1: 17 ต.ค. 2557 หน่วยละ 1.00 บาท ครั้งที่ 2: 30 ก.ย. 2558 หน่วยละ 0.25 บาท ครั้งที่ 3: 30 มี.ค. 2559 หน่วยละ […]