2023 – The Rise of Asia |
INVESTMENT STRATEGY
By BBLAM
“อินเดีย เป็น แลนด์มาร์กใหม่การลงทุนระยะยาว”
“อังกิต สันเชติ” ผู้จัดการการลงทุน กลยุทธ์การลงทุนหุ้น Kotak Mahindra Asset Management กล่าวถึง Incredible India: Finding Opportunities in the World’s Leading Growth Market amidst Global Uncertainties ว่า “อินเดีย” เป็นโอกาสลงทุนระยะยาวที่มาพร้อมกับการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหม่ ขณะที่ การเลือกตั้งอินเดีย ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า อาจเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนกำลังจับตา หากไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้ยังมีความผันผวนได้บ้าง
แต่เรายังมองการลงทุน “หุ้นอินเดีย” เป็นการเล่นเกมส์ระยะยาว และด้วยราคาหุ้นน่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงมาก หรือทรงตัวในปี 2024 แนะนักลงทุน คว้าโอกาสนี้ไว้ “ปรับพอร์ต มีหุ้นอินเดียมาเป็นส่วนหนึ่ง” เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะกลางถึงยาว
มีธีมการลงทุน น่าสนใจระยะสั้น เช่น การเงิน ค้าปลีก ท่องเที่ยว การผลิตจากรายได้ต่อหัวประชากรที่ปรับเพิ่มขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนระยะกลางถึงยาว จากปัจจัยหนุน เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (สนามบิน ระบบรางรถไฟ ถนน) เพื่อเชื่อมต่อระบบเมือง การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดอีวีมากขึ้น และจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีกกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ลงทุนในพลังงานทางเลือกและหมุนเวียน เช่น พลังงานน้ำ ทดแทนการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ
BBLAM แนะนำกองทุน
ลงทุนหุ้น ASIA – Ex Japan : B-ASIA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASIARMF และ B-ASIASSF
ลงทุนหุ้นจีน : B-CHINE-EQ หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-CHINAARMF และ B-CHINESSF
ลงทุนหุ้นอินเดีย : B-BHARATA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INDIAMRMF
ลงทุนหุ้นอาเซียน : B-ASEAN หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASEANRMF
ลงทุนหุ้นเวียดนาม : B-VIETNAM หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-VIETNAMRMF และ B-VIETNAMSSF
ลงทุนหุ้นไทยเน้นกระจายลงทุน : BKA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ BERMF และ BEQSSF
ลงทุนหุ้นไทยแบบเน้นเน้น : BTP หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-TOPTENRMF
Market & Economy |
THAILAND
By BBLAM
“กนง.หยุดขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกหลังปรับขึ้นต่อกัน 8 ครั้ง”
คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน ตามที่ตลาดคาด ซึ่งเป็นการหยุดขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน 8 ครั้ง
กนง.กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันเอื้อต่อการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายอย่างยั่งยืนในขณะที่สนับสนุนการเติบโต
กนง. มองเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างสมดุลมากขึ้นในปี 2024 และ 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในประเทศภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกสินค้าที่ฟื้นตัว ในครั้งนี้ ได้มีการปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2023 ชะลอลงมาที่ 2.4% (จาก ประมาณการเดิม 2.8% และปีก่อนหน้าที่ 2.6% ) และปรับ GDP Growth ปี 2024 โตที่ 3.2% (จากประมาณการเดิม 4.4%) นอกจากนี้ กนง. ได้ปรับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็น 1.3% สําหรับปี 2023 (เทียบกับประมาณการก่อนหน้าที่ 1.6%) และ 2% (เทียบกับประมาณการก่อนหน้าที่ 2.6%) สําหรับปี2024 ทั้งนี้ตัวเลขล่าสุดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อไทยหดตัว -0.31% YoY
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.bblam.co.th/bualuang-insights/bblam-investment-insights/4-8-2023-1