มาเลเซียเผยมีหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยพิจารณาว่าใครจะร่วมแผนเปิดตัว 5G ปีนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการสื่อสารของมาเลเซียให้ข้อมูลว่า หน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยมาเลเซียจะกำหนดว่าบริษัทใดเข้ามามีส่วนร่วมในแผนเปิดตัว 5G ปีนี้ได้ ท่ามกลางกระแสที่สหรัฐฯ กำลังกดดันประเทศต่างๆ ไม่ให้เปิดรับหัวเว่ยของจีนเข้าร่วม หัวเว่ยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นรายสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ ออกแคมเปญจำกัดการใช้เทคโนโลยีจีนพัฒนาแพลตฟอร์มโทรคมนาคมรุ่นต่อไป เพราะมีข้อกังวลว่าอุปกรณ์หัวเว่ยอาจถูกรัฐบาลจีนใช้สอดแนม โดยสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำการค้ากับหัวเว่ย เดือน พ.ค. 2019 ส่วนเดือน ก.พ. นี้อัยการของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า หัวเว่ยขโมยความลับทางการค้าและช่วยเหลืออิหร่านติดตามผู้ประท้วง ซึ่งหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ Gobind Singh Deo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียตระหนักถึงความกังวลที่เผยแพร่ทั่วโลกเกี่ยวกับหัวเว่ย แต่เรื่องนี้จะถูกควบคุมดูแลโดยหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของรัฐในการเลือกพันธมิตรเข้าร่วมแผนเปิดตัวเครือข่าย 5G ของประเทศในไตรมาส 3 นี้ “มุมมองเราชัดเจนมาก เรามีหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของเรา เรามีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของตัวเอง ถ้าใครก็ตามมาพร้อมข้อเสนอเพื่อตกลงกับเรา เราต้องแน่ใจว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัย” Singh Deo กล่าว Singh Deo กล่าวอีกว่า เมื่อพูดเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าหัวเว่ยหรือรายอื่น คุณก็ต้องแน่ใจว่าระบบที่พวกเขานำเสนอเป็นอย่างไร เหมาะสมกับคุณหรือไม่ […]
สิงคโปร์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจหลังโควิด-19 กระทบท่องเที่ยว-ส่งออก-บริโภคในประเทศ
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า สิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรฐกิจในปี 2020 จากผลกระทบโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลให้ประเทศมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อนอกประเทศจีนมากที่สุด กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ของสิงคโปร์ ระบุว่า สิงคโปร์คาดาการณ์ว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ จะเติบโตประมาณ 0.5% โดยได้ปรับลดคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของจีดีพีประจำปีอยู่ระหว่าง -0.5 – 1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า ที่คาดไว้ว่าจะเติบโตระหว่าง 0.5-2.5% ในแถลงการณ์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ คาดการณ์จีดีพีของสิงคโปร์ ภายใต้สมมติฐานที่ว่า เศรษฐกิจโลกปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่วงจรอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกในปีนี้กลับมาฟื้นตัวขึ้น แต่เมื่อการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญ และกระทบสิงคโปร์เอง จึงปรับประมาณการลง กระทรวงฯ ระบุว่า การระบาดของไวรัสอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ 3 ประการ ได้แก่ 1) กลุ่มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นเพื่อการส่งออก เช่น ภาคการผลิตและธุรกิจค้าส่ง จะได้รับผลกระทบจากการเติบโตที่อ่อนแอในตลาดอุปสงค์หลักทั้งในประเทศสิงคโปร์ และต่างประเทศอย่างจีน 2) ภาคการท่องเที่ยว และการขนส่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง […]
เว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซนำเข้าสินค้ามาจีน คลอดมาตรการช่วยร้านค้าต่างชาติช่วงโควิด-19 ระบาด
ไชน่าเดลี รายงานว่า ทีมอลล์ โกลบอล เว็บไซต์จำหน่ายสินค้านำเข้าให้กับลูกค้าจีน ออกมาตรการเพื่อช่วยลดภาระทางการเงินให้กับร้านค้าต่างประเทศที่กำลังตอสู้กับกำลังซื้อที่หยุดชะงักไปในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย ทีมอลล์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดำเนินการโดยอาลีบาบา กรุ๊ป จะยกเว้นค่าธรรมเนียมบริการช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ให้คู่ค้าต่างประเทศทั้งหมดที่เปิดร้านค้าในโลกเสมือนบนเว็บไซต์นี้ ก่อนวันที่ 1 ก.ค. นอกจากนี้พวกเขาได้รับสิทธิ์เข้าถึงซอฟต์แวร์การดำเนินงานร้านค้าออนไลน์ จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าทั่วโลกในเดือน ก.พ. และได้รับเงินอุดหนุนสำหรับการจัดส่งสินค้าระหว่างที่มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการขนส่งระหว่างประเทศอยู่ ขณะที่ แอนท์ ไฟแนนเชียล หน่วยธุรกิจการเงินของอาลีบาบา และทีมอลล์ โกลบอล พร้อมลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 1% จากปัจจุบัน จนถึงสิ้นเดือน มี.ค. อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอัตราที่ใช้ก่อนหน้านี้ และ เพื่อดึงดูดธุรกิจต่างชาติเข้ามามากขึ้นในตลาดจีน ตัวแทนธุรกิจ 21 รายของบริษัท ให้คำมั่นว่าจะให้บริการฟรีกับลูกค้าต่างชาติ กรณีที่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างนี้ถึง 31 มี.ค. นี้ ส่วน Kaola เว็บไซต์ใหม่ที่อาลีบาบาเพิ่งซื้อกิจการมา ซึ่งจำหน่ายสินค้านำเข้าเหมือนกัน ก็ออกมาตรการ 7 ข้อช่วงเดียวกันเพื่อช่วยเหลือธุรกิจที่กำลังเผชิญวิกฤติจากไวรัสโควิด-19 อยู่ ประกอบด้วยการลดและยกเว้นค่าคอมมิชชั่น ให้การขายสินค้าเกี่ยวกับการป้องกันสุขภาพและความปลอดภัย […]
โอเปกหั่นคาดการณ์ความต้องการน้ำมันโลกทั้งปีลง 2.3 แสนบาร์เรลต่อวัน รับผลกระทบโควิด-19
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ได้ปรับลดคาการณ์ความต้องการน้ำมันในปีนี้ลง โดยมีปัจจัยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่) เป็นปัจจัยหลักสำหรับการตัดสินใจลดประมาณการครั้งนี้ ทั้งนี้ ในรายงานประจำเดือนที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางได้ทบทวนประมาณการความต้องการน้ำมันโลกในปีนี้ โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 9.9 แสนบาร์เรลต่อวัน ลดลง 2.3 แสนบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับประมาณการในเดือนก่อน “ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจจีน ถูกเพิ่มเข้ามาเป็นปัจจัยความไม่แน่นอนที่มีผลกับเศรษฐกิจโลกปีนี้และมีผลต่อความต้องการน้ำมันทั่วโลกด้วย” รายงานของโอเปก ระบุ นอกจากนี้ โอเปกยังทบทวนความต้องการน้ำมันของจีนด้วย โดยคาดการณ์ลดลง 2 แสนบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 เมื่อเทียบกับประมาณการครั้งก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันโลกลงเป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ พร้อมทั้งลดประมาณการทั้งปีลง 2 แสนบาร์เรลต่อวัน
ไวรัสโคโรนา 2019 จะเร่งความเร็วการแยกตัวของสหรัฐฯ และจีน ยิ่งกว่าสงครามการค้า
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า Curtis Chin นักวิเคราะห์จากสถาบันมิลเคน ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้จะเป็นตัวเร่งความเร็วในการแยกตัวกันระหว่าง สหรัฐฯ กับจีน มากกว่าการที่ทั้งคู่ทำสงครามการค้าระหว่างกันด้วยซ้ำ เพราะขณะนี้ภาคธุรกิจเริ่มคิดถึงห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาในระยะยาวแล้ว โดยเชื่อว่าการระบาดครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศหลุดพ้นออกจากกันมากขึ้น “ทุกอย่างไม่สามารถอยู่ในจีนได้ เราเริ่มเห็นผลของการพึ่งพาตลาดที่สำคัญเพียงตลาดเดียว” Chin กล่าว Chin ยังกล่าวต่อว่า ในความเป็นจริงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน มีตั้งแต่ห่วงโซ่อุปทานไปจนถึงการลงทุน และการไหลเวียนทางการค้า ซึ่งเกี่ยวพันกันมานานหลายปีแล้ว เมื่อมีวิกฤติไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งนี้ ก็ยิ่งเป็นการเน้นย้ำให้สหรัฐฯ และพันธมิตรการค้าการลงทุนของจีนตระหนักถึงการกระจายความเสี่ยงออกจากจีน ขณะที่ โนมูระ ออกรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ชี้ว่า จีนมีการเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งกับเศรษฐกิจโลก โดยจีนครองส่วนแบ่ง 12% ของการค้าโลกในปีที่ผ่านมา ขณะที่ห่วงโซ่อุปทานของหลายบริษัท เช่น บริษัทจากสหรัฐฯ ก็มีการผลิตที่ขึ้นอยู่กับโรงงานในจีนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มต้นที่อู่ฮั่น ซึ่งถือเป็นเมืองหนึ่งที่เป็นห่วงโซ่อุปทานสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมามีการปิดเมืองอู่ฮั่น […]
สิงคโปร์คาดการณ์ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะหายไป 25-30%
เดอะ สเตรทไทม์ส รายงานว่า องค์กรการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (STB) คาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสิงคโปร์ปีนี้ จะลดลง 25-30% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 1,000 คน และมีผู้ติดเชื้อมากว่า 42,000 คนทั่วโลก โดยการคาดการณ์นี้ถือว่าเป็นยอดนักท่องเที่ยวที่ลดลงมากกว่าในช่วงการระบาดของซาร์ส ซึ่งในเวลานั้น นักท่องเที่ยวลดลง 19% โดย Keith Tan ผู้ว่าการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ กล่าวว่า “เราเชื่อว่าสถานการณ์ปีนี้อย่างน้อยก็รุนแรงเท่ากับช่วงซาร์ส หรือมีความเป็นไปได้ที่จะแย่กว่า” เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า การคาดการณ์นี้อยู่บนพื้นฐานที่ว่า จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสิงคโปร์ หายไป 18,000 – 20,000 คนต่อวัน โดยปัจจัยที่มีผลต่อการคาดการณ์ ประกอบด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1.ระยะเวลาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ว่าจะยาวนานแค่ไหน และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งภูมิภาคนี้หรือไม่ 2.สถานการณ์การระบาดในสิงคโปร์จะยาวนานแค่ไหน และ 3. ประเทศอื่นๆ […]
ยอดผู้โดยสารเดินทางทางอากาศทั่วโลกปีที่ผ่านมาเติบโตต่ำสุดนับจากวิกฤติการเงินโลก
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA เผยว่า จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางทางอากาศทั่วโลกในปีที่ผ่านมา เติบโตชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2018 แต่ก็ยังเติบโตอยู่ ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPKs) ทั่วโลกในปี 2019 เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับปี 2018 ซึ่งเคยเติบโต 7.3% นับเป็นปีแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2009 ที่ความต้องการเดินทางของผู้โดยสารเติบโตต่ำกว่าแนวโน้มการเติบโตระยะยาวซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.5% ต่อปี ขณะที่กำลังการบรรทุกผู้โดยสารทั้งปี 2019 ไต่ระดับขึ้นมา 3.4% อัตราบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับสูงสุดที่เคยทำมา โดยอยู่ที่ 82.6% จากปี 2018 อยู่ที่ 81.9% เดือน ธ.ค. 2019 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2018 โดยตัวเลขนี้ถือว่าดีขึ้นมาแล้วจากเดือน พ.ย. ซึ่งเติบโต 3.3% เป็นผลจากความต้องการเดินทางในอเมริกาเหนือที่ยังแข็งแกร่งอยู่ […]
ธนาคารกลางสหรัฐกำลังหารือออก ‘เฟดคอยน์’
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Lael Brainard สมาชิกคณะกรรมการผู้บริหาร ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดกำลังสนใจประเด็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการชำระเงินและสกุลเงินดิจิทัล ทั้งเรื่องนโยบาย การออกแบบ และการพิจารณาทางกฎหมายสำหรับความเป็นไปได้ในการออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง หรือเฟดคอยน์ Brainard ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้มีความเปิดกว้างมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นการออกเหรียญดิจิทัลของเฟด เมื่อเทียบกับในอดีต “การเปลี่ยนผ่านของการชำระเงิน รวมทั้งดิจิทัล ทำให้มีโอกาสที่จะนำเสนอสิ่งที่มีมูลค่าขึ้นและสะดวกด้วยต้นทุนที่ต่ำลง” Brainard กล่าวในการประชุมด้านการชำระเงิน ซึ่งจัดขึ้นที่สแตนฟอร์ด อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้กล่าวถึงประเด็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย หรือ มุมมองที่มีต่อเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย ทั้งนี้ Brianard ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่ระบบชำระเงินดิจิทัลและสกุลเงินดิจิทุลที่ออกโดยภาคเอกชน กำลังเติบโตอยู่ รวมถึงโครงการสกุลเงินดิจิทัลลิบรา ของเฟซบุ๊กนั้นถือเป็นความเสี่ยงที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างก็เป็นกังวลอยู่ เพราะผู้เล่นใหม่บางรายอยู่นอกระบบการกำกับดูแลของภาคการเงิน และสกุลเงินดิจิทัลใหม่อาจจะสร้างความท้าทายในด้านต่างๆ ได้ เช่น การเงินที่ผิดกฎหมาย ความเป็นส่วนตัว เสถียรภาพทางการเงิน และการส่งผ่านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังถกเถียงและศึกษากันอยู่ ว่าจะบริหารเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจ (distributed ledger) ที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของบิตคอยน์ได้อย่างไร โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้การชำระเงินเกิดขึ้นได้ในทันทีด้วยต้นทุนที่ต่ำลง อย่างเช่น จีนที่มีความเคลื่อนไหวในการวางแผนออกเหรียญดิจิทัล
นักเศรษฐศาสตร์หั่นคาดการณ์จีดีพีจีนปีนี้รับผลกระทบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์จากหลายๆ สำนัก เริ่มทยอยปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ปีนี้ หลังจากที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระบาดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจในหลายเมืองต้องหยุดชะงักลง เช่น ต้องปิดโรงงานยาวนานขึ้น จากการที่จีนขยายวันหยุดช่วงตรุษจีน และการขยายวันหยุดก็ยังมีต่อในบางพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ ภาคบริการของจีนก็ได้รับผลกระทบจากการที่ผู้คนต้องเก็บตัวอยู่ในบ้าน ภาพยนตร์ใหม่ที่มีกำหนดเข้าฉายช่วงตรุษจีนก็ต้องยกเลิกไป ทั้งที่ช่วงเวลานี้เป็นฤดูการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายมากที่สุด อย่างไรก็ตาม บางคนคาดการณ์ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จีนจะออกมาจะช่วยชดเชยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ เมื่อปี 2019 จีดีพีของจีนทั้งปีเติบโต 6.1% ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้าซึ่งเติบโต 6.6% นักเศรษฐศาสตร์ของรัฐบาลจีน ระบุว่า เศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีน อาจจะเติบโตลดลงเหลือ 5% หรืออาจจะต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่วน ANZ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจจีนทั้งปีนี้ว่าจะเติบโตที่ 5.8% แม้ว่าจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไตรมาสแรกของจีนปีนี้ว่าจะเติบโตลดลงเหลือ 5% จากเดิมคาดไว้ 5.9% ส่วนซิตี้ ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจจีนทั้งปีนี้ว่าจะเติบโต 5.5% จากเดิมคาดไว้ 5.8% […]
อินเดียเชื่อมั่นเป้าหมายเศรษฐกิจเติบโต 6%-6.5% ในปี 2021 เป็นจริงได้
Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลมองเห็นความเป็นไปได้ที่การเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2021 จะเข้าใกล้เป้าหมายที่วางไว้ เขา กล่าวว่า เป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้เป็นไปได้จริง เพราะคณะทำงานได้นำปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาพิจารณา และคาดว่าการสร้างรายได้ของภาครัฐบาลจะเริ่มดีขึ้น ซึ่งเราเริ่มเห็นสัญญาณเหล่านั้นบ้างแล้ว นอกจากนี้ เขากล่าวถึงผลการสำรวจทางเศรษฐกิจประจำปีซึ่งเผยแพร่เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ผลสำรวจคาดการณ์เศรษฐกิจจะขยายตัวในกรอบ 6%-6.5% ในปีงบประมาณใหม่ที่เริ่มต้นในวันที่ 1 เม.ย. 2020 ทั้งนี้ หากเราจะรับรู้ตัวเลขเหล่านี้ตามเป้าหมายได้ จำเป็นต้องเห็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจ หลังจากการชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีในช่วง 3 เดือนสุดท้ายที่สิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2019