หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ทำพิษ

หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ทำพิษ

การร่วงลงของหุ้นยักษ์ใหญ่หลายบริษัทที่ก่อนหน้านี้เป็นตัวขับเคลื่อนตลาดหุ้นให้เพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่อจุดอ่อนในการซื้อขายหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และทำให้เกิดความกังวลว่าหุ้นหลายตัวที่ราคาเพิ่มสูงขึ้นมากเกินไปจะเผชิญกับความผันผวนที่มากขึ้น รายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวังจากเทสลา (Tesla) และอัลฟาเบท (Alphabet) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล (Google) จุดชนวนให้เกิดการเทขายหุ้นในตลาดอย่างรุนแรงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24 ก.ค.) โดยดัชนี Nasdaq Composite ที่เน้นบริษัทด้านเทคโนโลยีร่วงลง 3.6% ซึ่งเป็นการปรับลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ปี 2565 ส่วนดัชนี S&P 500 ปรับลดลง 2.3% โดยรายงานผลประกอบการก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่กำลังจะเปิดเผยจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่น ๆ โทมัส มาร์ติน (Thomas Martin) ผู้จัดการกองทุนอาวุโสของบริษัท โกลบอลท์ (GLOBALT) กล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่ได้ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีสารสนเทศและบริษัทที่มุ่งเน้นการเติบโตจำนวนมากเกินไป และกลยุทธ์ในการเทรดคือ จะต้องกระจายการลงทุนให้มีความหลากหลายมากขึ้น” ความอลหม่านเกิดขึ้นหลังจากการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กระตุ้นให้เกิดการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเวลานานหลายเดือนในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดยักษ์ใหญ่และบริษัทที่เติบโตสูงจำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้ผลิตชิปอย่าง เอนวิเดีย (Nvidia), ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และแอมะซอน (Amazon) ที่ผลักดันให้ดัชนี […]

สหรัฐฯ เปิดเผยแผนเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในทวีปอเมริกา

สหรัฐฯ เปิดเผยแผนเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในทวีปอเมริกา

นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ เปิดเผยในวันพุธ (17 ก.ค.) เกี่ยวกับแผนการใหม่สำหรับประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกา ที่จะเพิ่มการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญในเกือบทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมสมัยใหม่และเป็นภาคส่วนที่จีนควบคุมอยู่ “แผนการนี้จะเพิ่มศักยภาพของประเทศต่างๆ ในการประกอบ ทดสอบและบรรจุเซมิคอนดักเตอร์ โดยเริ่มจากเม็กซิโก ปานามา และคอสตาริกา” นายบลิงเกนกล่าว ขณะที่เขาเปิดการประชุมกับ 11 ประเทศในลาตินอเมริกา นายบลิงเกน กล่าวว่า ทวีปอเมริกาควรมีบทบาทมากขึ้นในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้เซมิคอนดักเตอร์กับสิ่งต่างๆ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ไปจนถึงตู้เย็นและระบบอาวุธ นายบลิงเกน ยังเรียกร้องให้มีการลงทุนมากขึ้นในทวีปอเมริกา เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงานจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และระบุย้ำว่า เป้าหมายของ 12 ประเทศในการประชุมครั้งนี้ คือ การจัดสรรเงิน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า การประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งนี้ จัดขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมืออเมริกาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน สำหรับการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปนั้นมีกำหนดจัดขึ้นในปีหน้าในประเทศคอสตาริกา ที่มา: เอเอฟพี

‘พาวเวลล์’ ยันพร้อมหั่นดอกเบี้ย หากข้อมูลศก.พร้อม ปัดเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่กระทบการตัดสินใจ

‘พาวเวลล์’ ยันพร้อมหั่นดอกเบี้ย หากข้อมูลศก.พร้อม ปัดเลือกตั้งสหรัฐฯ ไม่กระทบการตัดสินใจ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะตัดสินใจเกี่ยวกับปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีความพร้อม โดยปฏิเสธประเด็นที่ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย. นั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก่อนถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. นี้ “ภารกิจของเรา คือ การตัดสินใจเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นโดยพิจารณาจากข้อมูลที่มีเป็นหลัก รวมถึงข้อมูลที่กำลังจะออกมา ภาพรวมในอนาคต และความสมดุลด้านความเสี่ยง ไม่ว่าจะปัจจัยอื่น ๆ จะเป็นอย่างไร ซึ่งหมายรวมถึงปัจจัยทางการเมืองด้วย” นายพาวเวลล์กล่าว ระหว่างแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา “เราทำเช่นนี้มายาวนานแล้ว รวมถึงในปีที่มีการเลือกตั้งด้วย…ทุกสิ่งที่เราทำจะต้องมีพื้นฐานที่ชัดเจนหนักแน่น  ซึ่งคงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมหากคิดถึงแต่กระบวนการเลือกตั้งในทางใดทางหนึ่ง” นายพาวเวลล์ กล่าวเพิ่มเติม ความเห็นดังกล่าวของนายพาวเวลล์ เป็นการตอบคำถามของนายไมค์ ลอว์เลอร์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันของรัฐนิวยอร์ก เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ว่าเชื่อมโยงกับการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย. หรือไม่ โดยปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้ประมาณ 70% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ […]

ซีอีโอ JPMorgan เชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเฟื่องฟู

ซีอีโอ JPMorgan เชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเฟื่องฟู

ซีอีโอ JPMorgan เชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเฟื่องฟู แรงหนุนการจ้างงานและการเงินผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แม้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย วันที่ 23 เมษายน 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Jamie Dimon ซีอีโอ JPMorgan Chase แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการจ้างงานและการเงินผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ซีอีโอ JPMorgan กล่าวในงาน Economic Club of New York เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 67 ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นั้นน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่การเงินผู้บริโภคยังคงที่แข็งแกร่ง พร้อมเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงมองว่า อัตราเงินเฟ้ออาจคงอยู่นานกว่าที่คาดไว้ และคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้ ซีอีโอ JPMorgan ระบุว่า “ผมต้องการให้ประธานาธิบดีคนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม นำสมาชิกเข้าไปในคณะรัฐมนตรี นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะเห็น […]

จับตา ‘พาวเวล’ แถลงนโยบายการเงินครั้งแรกของปีนี้ต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต้นเดือนมี.ค.

จับตา ‘พาวเวล’ แถลงนโยบายการเงินครั้งแรกของปีนี้ต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต้นเดือนมี.ค.

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินซึ่งมีขึ้นปีละ 2 ครั้งต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 7 มี.ค. เมื่อพิจารณาจากธรรมเนียมปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ว่า นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก่อนหน้านั้นอย่างน้อย 1 วัน อย่างไรก็ดี โฆษกของคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ยืนยันกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า จะเป็นวันใด ขณะที่ เว็บไซต์ข่าว Punchbowl รายงานว่า นายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวในวันที่ 6 มี.ค. ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการแถลงต่อสภาคองเกรสของนายพาวเวลอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่า การแถลงครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในช่วงกลางเดือนมี.ค. โดยที่ประชุมจะประเมินความคืบหน้าของภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และมีความเป็นไปได้ว่า คณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณว่า จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อใด ที่มา: รอยเตอร์

ยอดล้มละลายปี 2566 ในสหรัฐฯ พุ่ง 18% คาดส่อแววพุ่งต่อเนื่องปีนี้

ยอดล้มละลายปี 2566 ในสหรัฐฯ พุ่ง 18% คาดส่อแววพุ่งต่อเนื่องปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การยื่นขอล้มละลายทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการล้มละลายทั้งในระดับเชิงพาณิชย์และระดับส่วนบุคคลในสหรัฐฯ ปี 2566 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นถึง 18% แตะระดับ 445,186 ราย จาก 378,390 ราย ในปี 2565 และคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 นี้ โดยถูกกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น และการสิ้นสุดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด แม้จำนวนการล้มละลายจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัดก็ตาม  ข้อมูลจาก Epiq AACER ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการล้มละลาย ระบุว่า การยื่นปรับโครงสร้างธุรกิจตามมาตรา 11 เพิ่มขึ้น 72% อยู่ที่ 6,569 ราย จากระดับ 3,819 ราย ในปี 2565 ขณะที่ ผู้บริโภคยื่นขอล้มละลายเพิ่มขึ้น 18% มาอยู่ที่ 419,559 ราย จาก 356,911 […]

หนี้สาธารณะสหรัฐ พุ่งแตะ 34 ล้านล้านดอลล์เป็นครั้งแรก เร่งผลักดันจัดสรรงบประมาณชั่วคราว

หนี้สาธารณะสหรัฐ พุ่งแตะ 34 ล้านล้านดอลล์เป็นครั้งแรก เร่งผลักดันจัดสรรงบประมาณชั่วคราว

หนี้สาธารณะสหรัฐ พุ่งแตะ 34 ล้านล้านดอลล์เป็นครั้งแรก ในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังเร่งผลักดันการจัดสรรงบประมาณชั่วคราว เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า วันที่ 2 มกราคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กระทรวงการคลัง สหรัฐฯ รายงานว่า หนี้สาธารณะโดยรวมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ สูงถึง 34 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสกำลังเร่งผลักดันการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังรายวันประจำวันศุกร์ (29 ธ.ค. 2566) แสดงให้เห็นว่า หนี้สาธารณะคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 34.001 ล้านล้านดอลลาร์ จาก 33.911 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (28 ธ.ค.2566) หนี้ที่นับรวมในเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นเป็น 33.89 ล้านล้านดอลลาร์ในวันศุกร์ (29 ธ.ค. 2566) จาก 33.794 ล้านล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี หมวดหมู่ “หนี้ที่มีขีดจำกัด” นี้ไม่รวมส่วนลดที่ยังไม่ได้ตัดจำหน่ายสำหรับตั๋วเงินคลังและพันธบัตรเป็นศูนย์ หนี้ที่ออกโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ และหนี้ค้ำประกันของหน่วยงานอื่นๆ บางแห่ง เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นไม่นาน หลังจากที่หนี้ของรัฐบาลกลางพุ่งสูงถึง 33 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน […]

เศรษฐกิจสหรัฐฯ Q3/2566 โตเกินคาด 5.2% สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี

เศรษฐกิจสหรัฐฯ Q3/2566 โตเกินคาด 5.2% สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี

เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 3 ปี 2566 โต 5.2% มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ และเป็นการเติบโตรายไตรมาสที่เร็วสุดในรอบเกือบ 2 ปี ยังไม่มีสัญญาณจะถดถอยอย่างที่มีความกังวลกันมาตลอดปี รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ เผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 3 ปี 2566 ครั้งที่ 2 โดยประมาณการว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โต 5.2% มากกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะโต 4.9% และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสำรวจของรอยเตอร์ (Reuters) คาดว่าจะโต 5.0% และเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 การเติบโตที่เร็วกว่าคาดเป็นผล เนื่องจากภาคธุรกิจสร้างคลังสินค้าและซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรมากขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ สะท้อนให้เห็นถึงการอัพเกรดการลงทุนในโครงสร้างของภาคธุรกิจ ขณะที่ การใช้จ่ายของรัฐบาลกลางของรัฐบาลและท้องถิ่นก็ได้รับการแก้ไขให้สูงขึ้นเช่นกัน   นอกจากนี้ การลงทุนด้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มขึ้นด้วย โดยการก่อสร้างบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยหยุดสถิติการหดตัวติดต่อกัน 9 […]

‘ไบเดน’ หารือ ‘สี’ ที่ซานฟรานซิสโก

‘ไบเดน’ หารือ ‘สี’ ที่ซานฟรานซิสโก

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประชุมสุดยอดที่คฤหาสน์ชานนครซานฟรานซิสโก เมื่อวันพุธ ผู้นำ 2 ชาติตกลงที่จะเปิดสายฮอตไลน์ระหว่างประธานาธิบดี กลับมาติดต่อสื่อสารทางทหารและทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมการผลิตยาเฟนทานิล ด้านผู้นำจีนเรียกร้องสหรัฐฯ ให้หยุดขายอาวุธให้ไต้หวัน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประชุมสุดยอดที่ฟีโลลีเอสเตท คฤหาสน์ตากอากาศในเมืองวูดไซด์ ห่างจากทางใต้ของนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ราว 48 กิโลเมตร เมื่อวันพุธที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ตามเวลาท้องถิ่น การประชุมสุดยอดของผู้นำชาติมหาอำนาจ 2 ชาติบรรลุข้อตกลงที่สำคัญ โดยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและจีนมีแผนที่จะกลับมาติดต่อสื่อสารทางทหารระหว่างกันอีกครั้ง หลังจากจีนตัดการสื่อสารดังกล่าวไป หลัง แนนซี เพโลซี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ไบเดน กล่าว หลังการหารือกับประธานาธิบดีสีว่า ทั้ง […]

น้ำมันลง $1.5-ทองคำปรับลด หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก พบ ศก.อเมริกาอาจเลี่ยงภาวะถดถอย

น้ำมันลง $1.5-ทองคำปรับลด หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก พบ ศก.อเมริกาอาจเลี่ยงภาวะถดถอย

ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 1.5% ในวันพุธ (15 พ.ย.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำขยับลง จากข้อมูลรัฐบาลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอเมริกาอาจรอดพ้นจากภาวะถดถอย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นถึง 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 421.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 1.8 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ข้อมูลรายสัปดาห์ของรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากอยู่ระหว่างอัปเกรดระบบ ยังพบอีกว่ากำลังผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ทรงตัวอยู่ที่ 13.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เท่ากับช่วงเดือนตุลาคม ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (15 […]