‘รถยนต์ไฟฟ้า EV’ แบรนด์ไหนมาแรงที่สุดในโซเชียล

‘รถยนต์ไฟฟ้า EV’ แบรนด์ไหนมาแรงที่สุดในโซเชียล

ตลาดรถ EV มาแรง ดาต้าเซ็ต เจาะข้อมูลในโซเชียลมีเดีย พบคนไทยพูดถึงรถ EV คึกคักรับเทรนด์คนยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พบ 3 แบรนด์ดังได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ BYD, CHANGAN และ Tesla โดยมีการกล่าวถึง (Mention) และ เอ็นเกจเมนต์ (Engagement) มากที่สุด ปัจจุบันความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ในไทยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2566 จากข้อมูลของรอยเตอร์ พบว่า ไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับงาน Motor Expo 2023 ครั้งที่ 20 พบว่ายอดจองรถยนต์ EV ถล่มทลายมาก โดยเฉพาะ BYD ที่เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนซึ่งมียอดจองสูงเป็นอันดับ 1 ในงาน ทั้งนี้ บริษัท ดาต้าเซ็ต จึงได้ใช้เครื่องมือ DXT360 […]

วัตถุดิบโลกเสี่ยงขาดแคลนปีหน้า ความแห้งแล้ง และเอลนีโญยังกดดันการผลิตครึ่งปีแรก

วัตถุดิบโลกเสี่ยงขาดแคลนปีหน้า ความแห้งแล้ง และเอลนีโญยังกดดันการผลิตครึ่งปีแรก

ราคาอาหารที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวนาทั่วโลกหันมาปลูกธัญพืชและพืชน้ำมันมากขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังสุ่มเสี่ยงต่อการขาดแคลนทรัพยากรอาหารในปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ข้อบังคับการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงคำสั่งผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพให้สูงขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลืองที่ดีขึ้นมาหลายปี กำลังตกต่ำลงในปีนี้ จากปัญหาคอขวดในทะเลแดงที่คลี่คลาย และความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย แม้ว่าราคาของสินค้าจะยังมีความไม่มั่นคงก็ตาม Ole Houe ผู้อำนวยการการให้คำปรึกษาจาก IKON Commodities ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ทางด้านการเกษตรในประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า ภาพรวมราคาของธัญพืช ซึ่งเป็นพืชผลที่จำเป็นหลายชนิดจากแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ เติบโตขึ้นในปี 2566 แต่ถึงอย่างนั้นความกังวลก็ยังไม่หมดไป คาดการณ์จาก IKON ระบุว่า ประเทศบราซิลจะปลูกข้าวโพดได้น้อยลงจากปรากฏการณ์เอลนีโญ คาดว่าสภาพอากาศจะแปรปรวนไปจนถึงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในขณะที่ ประเทศจีนสร้างความตกตะลึงโดยการกว้านซื้อข้าวสาลีและข้าวโพดจากตลาดนานาชาติ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งสร้างภาวะความแห้งแล้งให้กับภูมิภาคส่วนใหญ่ในเอเชียในปีนี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะดำเนินต่อไปถึงครึ่งแรกของปี 2567 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านเสบียงข้าวสาร ข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม และผลผลิตอื่น ๆ ทั้งจากผู้ผลิตเพื่อส่งออกและนำเข้า นักธุรกิจและภาครัฐคาดว่า ผลผลิตข้าวสารจากทวีปเอเชียในครึ่งแรกของปี 2567 จะตกต่ำลง เนื่องจากสภาวะอากาศที่แห้งและปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลงจะส่งผลต่อผลผลิต เสบียงข้าวสารของโลกในปีนี้ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ […]

เฟดลดดบ.แน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม

เฟดลดดบ.แน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม

เฟดลดดอกเบี้ยแน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม นักวิเคราะห์มองลดเกิน 0.75% การหมุนเวียนสับเปลี่ยนตำแหน่งประจำปีของคณะกรรมการผู้มีสิทธิออกเสียง กำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในปี 2567 โน้มเอียงมาทางสายเหยี่ยว (hawkish) มากขึ้นกว่ากลุ่มที่กำลังจะพ้นตำแหน่งไปจากในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การสับเปลี่ยนดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนมุมมองต่อนโยบายสำคัญการหั่นอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า นักวิเคราะห์จำนวนมากมีข้อโต้แย้งที่ตรงกันข้าม โดยอัตราเงินเฟ้อที่ร่วงลงรวดเร็วอย่างต่อเนื่องกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งมองว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายคนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% การเปิดเผยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชอบใช้ในการพิจารณา ยังได้เสริมให้มุมมองที่เฟดต้องลดดอกเบี้ยแข็งแรงมากขึ้นไปอีก ทั้งมาตรวัดเงินเฟ้อผู้บริโภคแบบทั่วไปและแบบพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารและพลังงานนั้น ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ซึ่งกำลังทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือนที่ผ่านมาของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับหรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟด ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้กลายมาเป็นสายพิราบ (dovish) หรือสายที่เน้นผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากหลักฐานจากข้อมูลที่สะสมมาเห็นชัดว่าแรงกดดันด้านราคาหรือเงินเฟ้อกำลังผ่อนคลายลง และตลาดแรงงานกำลังชะลอความร้อนแรงลงในการเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2565 จนถึงเดือน ก.ค. ปี 2566 […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.33%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.33%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.33%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,406.50 จุด และสูงสุดที่ 1,414.44 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 33,948.24 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ BDMS ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 มูลค่าการซื้อขาย 1,706.11 ล้านบาท AOT ปิดที่ 60.00 บาท ลดลง 0.50 มูลค่าการซื้อขาย 1,285.45 ล้านบาท SCC ปิดที่ 301.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 มูลค่าการซื้อขาย 1,243.74 […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,404.35 จุด และสูงสุดที่ 1,409.41 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 21,857.77 ล้านบาท

BBLAM Weekly Investment Insights 25-29 ธันวาคม 2023

BBLAM Weekly Investment Insights 25-29 ธันวาคม 2023

2023 – The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY BBLAM X Invesco  “มุมมองการลงทุนในเอเชียระยะข้างหน้า “ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุน” ในอินเดีย เกาหลีใต้ จีน เพราะมีโอกาสเติบโต “ปรับลดน้ำหนักลงทุน” ในไต้หวัน อินโดนีเซีย หลังจากราคาหุ้นปรับตัวขี้นมากแล้ว” BBLAM แนะนำกองทุน  กองทุนลงทุนตราสารหนี้เน้นยืดหยุ่น : B-DYNAMIC BOND และ กองทุนลดหย่อนภาษี : B-DYNAMICRMF และ  B-DYNAMICSSF  กองทุนลงทุนหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก : B-GLOBAL หรือกองทุนลดหย่อนภาษี B-GLOBALRMF  กองทุนลงทุนใน Asia Ex Japan : B-ASIA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASIARMF และ B-ASIASSF กองทุนลงทุนอินเดีย : B-BHARATA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INDIAMRMF และกองทุน SSF เลือก B-ASIASSF กองทุนลงทุนในเทคโนโลยี แต่พยายามเฟ้นหาหุ้นเทคฯพื้นฐานดี มูลค่ายังน่าลงทุน : B-INNOTECH หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INNOTECHRMF และ B-INNOTECHSSF ลงทุนหุ้นเวียดนาม : B-VIETNAM หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-VIETNAMRMF และ B-VIETNAMSSF ลงทุนหุ้นไทยเน้นกระจายลงทุน : BKA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ BERMF และ BEQSSF  ลงทุนหุ้นไทยแบบเน้นเน้น : BTP หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-TOPTENRMF และกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่  ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดอีก 1 แสนบาท ได้แก่ B-TOP-THAIESG […]

ฮอนด้า เรียกคืนรถยนต์ 4.5 ล้านคันทั่วโลก รุ่นดัง ซีวิค-ซีอาร์วี โดนด้วย

ฮอนด้า เรียกคืนรถยนต์ 4.5 ล้านคันทั่วโลก รุ่นดัง ซีวิค-ซีอาร์วี โดนด้วย

รอยเตอร์ รายงานว่า หน่วยงานในอเมริกาของฮอนด้า มอเตอร์ กำลังเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 4.5 ล้านคันทั่วโลก จากความเสี่ยงที่ปั๊มเชื้อเพลิงขัดข้อง การเรียกคืนครั้งนี้ ครอบคลุม รถยนต์จำนวน 2.54 ล้านคันในสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นหลังจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เคยเรียกคืนรถยนต์ 628,000 คันในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในปี 2564 และ 136,000 คันในปี 2563 จากปัญหาเดียวกัน ฮอนด้า ได้เรียกคืนรถเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากปัญหาเดียวกันในจีนและญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งต่อสำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ว่าจะทำการเปลี่ยนระบบปั๊มเชื้อเพลิงในรถให้ใหม่ และมีแผนที่จะแจ้งย้ำเรื่องการเรียกคืนรถอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า การเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้ ครอบคลุมรถยนต์หลายรุ่น ในปี 2018-2020 ได้แก่ Honda Accord, Civic, CR-V, HR-V, Insight, Ridgeline, Odyssey, Passport และรุ่น Acura หลายรุ่น รวมถึง […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด (+0.02%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด (+0.02%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด (+0.02%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,397.93 จุด และสูงสุดที่ 1,407.57 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 33,666.09 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ AOT ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 0.25 (-0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 1,219.01 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 92.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+1.10%) มูลค่าการซื้อขาย 1,208.36 ล้านบาท BBL ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 2.00 […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.32%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.32%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.32%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,394.28 จุด และสูงสุดที่ 1,407.87 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 38,806.30 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.25 (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 2,535.01 ล้านบาท PTTGC ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 2.75 (-6.79%) มูลค่าการซื้อขาย 1,702.47 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 […]

ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง

ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง

ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ WTI เฉียด 75 ดอลล์ โดยสัญญาทั้งสองยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง วันที่ 22 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่งขึ้นมากถึง 1% ในการซื้อขายวันศุกร์ (22 ธ.ค.2566) เนื่องจากความตึงเครียดยังคงมีอยู่ในตะวันออกกลาง ภายหลังการโจมตีเรือของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง แม้ว่าการตัดสินใจของแองโกลาที่จะออกจากโอเปก (OPEC) ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลุ่มในการสนับสนุนราคาน้ำมัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% สู่ 80.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 04.09 น. GMT ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) […]