ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,695.24 จุด ลดลง 3.16 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,695.24 จุด ลดลง 3.16 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,695.24 จุด ลดลง 3.16 จุด (-0.19%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,701.95 จุด และต่ำสุดที่ 1,693.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 71,203.95 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+0.94%) มูลค่าการซื้อขาย 3,667.99 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 4.00 บาท (-2.70%) มูลค่าการซื้อขาย 2,416.66 ลบ. 3.TEAMG ปิดที่ 5.75 […]

IMF ชี้การคว่ำบาตรการเงินรัสเซีย อาจลดทอนอำนาจของดอลลาร์สหรัฐได้

IMF ชี้การคว่ำบาตรการเงินรัสเซีย อาจลดทอนอำนาจของดอลลาร์สหรัฐได้

Gita Gopinath รองกรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความคิดเห็นกับ The Financial Times ไว้ว่า การคว่ำบาตรทางการเงินกับรัสเซีย อาจทำให้พลังการครอบงำตลาดของเงินดอลลาร์สหรัฐค่อยๆ ลดลง และส่งผลให้เกิดความกระจัดกระจายในระบบการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น รัสเซียถูกสหรัฐฯ และพันธมิตรคว่ำบาตรตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่บุกโจมตียูเครน โดยรัสเซียเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษเพื่อปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน “เงินดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินหลักของโลก แต่เป็นไปได้ที่ในพื้นที่เล็กๆ อาจจะมีการกระจายตัวเกิดขึ้น เนื่องจากบางประเทศเริ่มมีการเจรจาใหม่เกี่ยวกับการใช้สกุลเงินของตัวเองในการชำระเงินเพื่อการค้าแล้ว” Gopinath กล่าว เธอ กล่าวว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นการยอมรับเงินดิจิทัล ตั้งแต่คริปโทเคอร์เรนซี ไปจนถึงเหรียญดิจิทัลที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง (stablecoins) และสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ที่มา : Reuters  

BBLAM ส่งเสริมคนไทยแบ่งเงินสะสมลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง  พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนกลุ่มกองทุน BMAPS ต่อถึง 30 มิ.ย. นี้

BBLAM ส่งเสริมคนไทยแบ่งเงินสะสมลงทุนเพื่ออนาคตที่มั่นคง พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนกลุ่มกองทุน BMAPS ต่อถึง 30 มิ.ย. นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ Press Release รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า BBLAM ขยายระยะเวลายกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front-end Fee) ของกองทุน BMAPS25, BMAPS55 และ BMAPS100 จากเดิมยกเว้นระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 – 31 มีนาคม 2565 นี้ ขยายเวลาเพิ่มอีก 3 เดือน คือ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565 และหลังจากนั้นจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนในอัตรา 0.50% ของมูลค่าหน่วยลงทุนต่อไป จากแนวคิดของ BBLAM ที่ต้องการดำเนินพันธกิจ “ทำให้ครอบครัวไทยมีความมั่นคงทางการเงิน” ด้วยการสนับสนุนให้คนไทยแบ่งเงินออมสำหรับลงทุน เพราะการลงทุนเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อได้ และที่ BBLAM เลือกสนับสนุนให้นักลงทุนเลือกลงทุนผ่านกองทุน […]

ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลัง Biden เล็งปล่อยน้ำมันในคลังสำรองออกมา

ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลัง Biden เล็งปล่อยน้ำมันในคลังสำรองออกมา

ราคาน้ำมันในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปร้บลดลงไปมากกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม 2022 ในช่วงเช้ หลังมีข่าวออกมาว่าทีมบริหารของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังชั่งน้ำหนักอยู่ว่าจะปล่อยน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากคลังสำรองเชิงกลยุทธ์ เป็นเวลาหลายเดือนเพื่อจัดการกับราคาน้ำมันดิบที่พุ่งสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ซื้อขายล่วงหน้า ลดลงไป 4.71 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.2% เป็น 108.58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า WTI ( U.S. West Texas Intermediate futures) ลดลง 5.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือ 5% เป็น 102.74 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ คาดว่าทีมบริหารของ Biden จะประกาศแผนออกมาโดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลง หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดในช่วงที่รัสเซียโจมตียูเครน โดยราคาปรับขึ้นมา 3% […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,698.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,698.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,698.40 จุด เพิ่มขึ้น 8.66 จุด (+0.51%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,702.67 จุด และต่ำสุดที่ 1,692.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 97,951.67 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+0.95%) มูลค่าการซื้อขาย 4,341.24 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.50 บาท (-1.66%) มูลค่าการซื้อขาย 3,266.47 ลบ. 3.GULF ปิดที่ 51.25 […]

กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี

กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี

Economic Research กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องตั้งแต่การประชุมเดือน มิ.ย. 2020 3 ปัจจัยที่ กนง. จะติดตามใกล้ชิด ได้แก่ ความต่อเนื่องของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ การส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้น แนวโน้มและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลาง กนง. มองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวในปี 2022 และ 2023 ที่ 3.2% และ 4.4% ตามลำดับ  การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทยจะมีผลมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว โดยผลของการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่มากเท่าระลอกก่อนหน้า โดยที่มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียส่งผลให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้น แต่จะไม่กระทบแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม Downside Risk ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย การขาดแคลนวัตถุดิบในบางอุตสาหกรรมที่อาจยืดเยื้อ และผลกระทบจากค่าครองชีพและต้นทุนที่สูงขึ้นต่อภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจในกลุ่มเปราะบาง กนง. จะติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2022 และ 2023 คาดว่าจะอยู่ที่ […]

แพลนเที่ยวได้สบายหายห่วงด้วยแผนลงทุน

แพลนเที่ยวได้สบายหายห่วงด้วยแผนลงทุน

โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ใกล้ถึงช่วงสงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ไทย หลายคนก็คงคิดถึงเรื่องเที่ยว เพราะปีที่ผ่านๆ มาก่อนโควิด-19 ต้องได้เที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ ที่เที่ยวช่วงนี้เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว โดยการไปเที่ยวของบางคนอาจเป็นการกลับไปไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วถือโอกาสเที่ยวไปด้วย หรือชวนผู้หลักผู้ใหญ่ไปเที่ยวด้วยกันในช่วงนี้ ส่วนปีนี้ แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับเรา ก็ยังเที่ยวได้แบบคงมาตรการของเราเองให้ดี หน้ากากอนามัยต้องใส่อยู่เสมอ อย่าได้ไว้ใจแม้แต่ญาติสนิทมิตรสหายที่ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา และสำหรับการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้น เชื่อว่าหลายคนอยากไป เพราะตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวกันบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจยังไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย ก็เตรียมตัววางแผนกันไว้ก่อนล่วงหน้าซัก 1 ปี อย่างเช่น ใครที่อยากไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็เริ่มต้นวางแผนกันช่วงนี้แล้วปีหน้าหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ก็จะได้เดินทางกันได้อย่างมั่นใจ โดยเริ่มจากจุดหมายปลายทางที่เราต้องการไป เช่น ญี่ปุ่น จากนั้นก็ต้องเตรียมตัวเรื่องการใช้จ่ายที่เราต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าตั๋วเครื่องบิน ประมาณ 25,000 บาท ค่าเดินทางเที่ยวในญี่ปุ่นโดยรถไฟ JR Rail Pass ซึ่งมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 7 วัน หากเราไปเพียงแค่ 3-4 […]

เศรษฐีจีนย้ายเงินไปอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้น หลังรัฐบาลมีการปราบปรามต่างๆ มากขึ้น

เศรษฐีจีนย้ายเงินไปอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้น หลังรัฐบาลมีการปราบปรามต่างๆ มากขึ้น

กลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่งในจีนจำนวนมากขึ้นมีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บเงินไว้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และบางคนมองว่าสิงคโปร์เป็นเหมือนหลุมหลบภัย นับตั้งแต่มีการประท้วงทำให้เศรษฐกิจฮ่องกงหยุดชะงักในปี 2019 เศรษฐีจีนก็มองหาพื้นที่ทางเลือกที่จะเก็บความมั่งคั่งไว้ ซึ่งสิงคโปร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าน่าดึงดูดใจ เพราะมีชุมชนที่มีคนพูดภาษาจีนกลางอยู่จำนวนมาก และยังไม่เหมือนอีกหลายๆ ประเทศ ตรงที่ ไม่มีภาษีความมั่งคั่ง แนวโน้มความสนใจสิงคโปร์นั้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจากจีนปราบปรามอุตสาหกรรมการศึกษา และออกมาพูดถึง common prosperity หรือความเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ที่เน้นเรื่องการมีความมั่งคั่งปานกลางสำหรับทุกคน มากกว่าที่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทั้งนี้ CNBC สัมภาษณ์ข้อมูลจากตัวแทนบริษัทในสิงคโปร์ที่ช่วยเหลือให้คนจีนที่มีความมั่งคั่งเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ของตัวเองมายังเมืองนี้ผ่านโครงสร้างสำนักงานธุรกิจครอบครัว โดยพบว่า สำนักงานธุรกิจครอบครัวจะเป็นบริษัทเอกชนที่ดูแลเรื่องการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งให้กับครอบครัวของเศรษฐี ซึ่งในสิงคโปร์ การจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวจะต้องมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Iris Xu ผู้ก่อตั้ง Jenga บริษัทบัญชีและบริการองค์กร กล่าวว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีการสอบถามเกี่ยวกับการตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเท่าตัว หลักๆ เป็นคำถามที่มาจากคนจีนหรือกลุ่มคนอพยกที่มาจากจีน โดยขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 50 ราย ที่เปิดสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์ โดยทุกรายมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มา : CNBC

VinFast เตรียมลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

VinFast เตรียมลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ

VinFast ผู้ผลิตรถยนต์เวียดนาม ออกมาเผยว่า บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นที่จะลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานในนอร์ทแคโรไลนาเพื่อผลิตรถโดยสารไฟฟ้า รถยนต์อเนกประสงค์ พร้อมกับแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ VinFast หน่วยงานของ Vingroup กลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ระบุว่า มีแผนลงทุนทั้งหมด 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานแห่งแรกในสหรัฐฯ โดยการก่อสร้างจะเริ่มต้นในปีนี้ทันทีที่บริษัทได้รับใบอนุญาตที่จำเป็น และคาดว่าจะสร้างเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2024 โดยคาดการณ์ว่าโรงงานนี้จะมีกำลังการผลิต 150,000 หน่วยต่อปี Nguyen Thi Thu Thuy รองประธาน Vingroup และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VinFast Global กล่าวว่า ด้วยการมีโรงงานผลิตที่ถูกต้องในตลาดสหรัฐฯ VinFast สามารถทำให้ราคามีเสถียรภาพและลดระยะเวลาการส่งมอบลงได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าของเราได้มากขึ้น สำหรับ VinFast เริ่มรับคำสั่งซื้อล่วงหน้าจากทั่วโลกสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แล้ว โดยมีเป้าหมายส่งมอบรถให้ได้ในไตรมาสที่ 4 นี้ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า การลงทุนของ […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,689.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,689.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,689.74 จุด เพิ่มขึ้น 5.44 จุด (+0.32%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,692.90 จุด และต่ำสุดที่ 1,686.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,796.23 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.EA ปิดที่ 97.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+1.57%) มูลค่าการซื้อขาย 2,835.84 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.76%) มูลค่าการซื้อขาย 2,567.99 ลบ. 3.JMT ปิดที่ 74.50 […]