กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)

กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)

ธีมลงทุนที่เป็นเมกะเทรนด์ของอินเดีย 1.ภาคธนาคารและสถาบันการเงิน ซึ่งได้รับอานิสงค์จากการที่ ประเทศอินเดียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงแซงหน้าฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรขึ้นมาเป็นอันดับห้าของโลก ประชากรมีระดับการออมที่เพิ่มขึ้นมาจากฐานต่ำ ทำให้ธนาคารเอกชนและสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทยอยกินส่วนแบ่งตลาดจากธนาคารรัฐที่เคยเป็นเจ้าตลาดมาก่อนเนื่องจากมีโมเดลทางธุรกิจที่เข้าถึงตลาดได้ดีกว่า ธุรกิจตัวกลางที่เติบโตไปพร้อมกับการขยายตัว เช่น กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ แม้ตลาดหุ้นอินเดียจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ในเวลาดังกล่าวนักลงทุนประเภทลูกค้ารายย่อย/รายใหญ่/ผู้มีเงินลงทุนสูงใช้จังหวะเข้าลงทุนช่วงที่ราคาหุ้นลดลงผ่านการเข้าซื้อหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ หรือ Systematic Investment Plans (SIP) ในผลิตภัณฑ์กองทุนรวมตราสารทุนในประเทศ กองทุนรวมตราสารทุนในประเทศที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษี (จากกราฟแสดงเม็ดเงินไหลออกของนักลงทุนสถาบันต่างชาติ (แท่งสีแดง) เทียบเม็ดเงินไหลเข้า (แท่งสีฟ้า) ที่ซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวม อาทิกองทุน Aditya Birla Sun Life Tax Relief กองทุน ICICI Prudential Long Term Equity Fund กองทุน Axis Bluechip Fund กองทุน Mirae Asset Large Cap Fund […]

รัฐบาลอินเดียเผยงบประมาณคลังปี FY 2019 เดินหน้าทำ Fiscal Consolidation

รัฐบาลอินเดียเผยงบประมาณคลังปี FY 2019 เดินหน้าทำ Fiscal Consolidation

BF Knowledge Center • รัฐบาลอินเดียตั้งเป้างบประมาณคลังปี FY 2019 (เม.ย. 2018-มี.ค. 2019) ขาดดุลที่ -3.3% ของ GDP ต่ำลงจากงบประมาณคลังปี FY 2018 (เม.ย. 2017-มี.ค. 2018) ที่ -3.5% ของ GDP สะท้อนความพยายามในการลดค่าใช้จ่ายการคลัง • เม็ดเงินงบประมาณส่วนใหญ่เน้นไปที่พัฒนากลุ่มชนบท ซึ่งน่าจะให้ผลบวกกับการก่อสร้างพื้นฐาน,ภาคการผลิตอุตสาหกรรม, และการเงินการธนาคาร ขณะที่รัฐบาลคาดว่าจะได้รับรายได้เพิ่มจากการเก็บภาษี GST ด้วย รัฐบาลอินเดียมีความพยายามลดการขาดงบประมาณคลังอย่างต่อเนื่อง ฝั่งรายได้: รัฐบาลอินเดียประมาณการว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มในสัดส่วน 0.5pp ของ GDP โดยที่รายได้คลังจะขยายตัวที่ 16.7% YoY แหล่งรายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาจากการเก็บภาษี GST ฝั่งรายจ่าย: ขยายตัวประมาณ 10.1% YoY ในรายองค์ประกอบรัฐบาลปรับงบลงทุนลงประมาณ 0.3pp ของ […]

เศรษฐกิจอินเดียขึ้นอันดับ 3 ของโลกในปี 2028

เศรษฐกิจอินเดียขึ้นอันดับ 3 ของโลกในปี 2028

เศรษฐกิจอินเดียจะกลายเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก ตามหลังสหรัฐและจีนภายในปี 2028 เนื่องจากภาคการเงินที่เติบโตขึ้น รวมทั้งตลาดผู้บริโภคที่ขยายตัวตามจำนวนประชากรของอินเดีย รายงานของ Bank of America-Merill Lynch ระบุว่าเศรษฐกิจอินเดียจะแซงหน้าเศรษฐกิจของฝรั่งเศส และอังกฤษในปี 2019 ภายในปี 2027 ราคารถที่ถูกที่สุดจะเทียบเท่ารายได้เฉลี่ยต่อตัวต่อปีของคนอินเดีย เมื่อเทียบกับ 2.5 เท่า ในตอนนี้ ขณะที่เป็น 14.5 เท่าของเฉลี่ยรายได้ต่อหัวต่อปีในปี 2000 รายงานของ Bank of America-Merill Lynch บอกว่า ภายในปี 2028 ชาวนาเกือบจะทั้งหมดจะกลายเป็นผู้ที่มีรายได้ระดับกลาง โดยที่ประชากรกลุ่มนี้จะมีจำนวนเท่ากับประชาชนของรัสเซีย และจะอาศัยอยู่ในเมือง ในปี 2028 Bank of America-Merrill Lynch ทำนายว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 68 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ และค่าเงินรูปีจะอ่อนตัวลง 3% ระหว่างนี้ไปจนถึงปีนั้น เศรษฐกิจอินเดียจะมีภาคบริการเป็นตัวขับเคลื่อน […]

ลงทุนเพื่อการเกษียณใน New India กับ B-INDIAMRMF

ลงทุนเพื่อการเกษียณใน New India กับ B-INDIAMRMF

อินเดียอัด 32,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มทุนแบงก์

อินเดียอัด 32,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มทุนแบงก์

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลอินเดียประกาศว่าจะใช้เงิน 2.11 ล้านล้านรูปี หรือ 32,000 ดอลลาร์ล้านเพื่อเพิ่มทุนระบบธนาคารของรัฐในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า เม็ดเงินมหาศาลที่จะใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มทุนระบบธนาคารของรัฐนี้ สูงกว่าที่รัฐบาลโมดีได้ให้สัญญาเอาไว้ถึง 10 เท่า ในการไฟแนนซ์การเพิ่มทุนแบงก์ของรัฐ รัฐบาลอินเดียจะก่อหนี้ด้วยการออกพันธบัตรมูลค่า 1.35 ล้านล้านรูปี ส่วนธนาคารของรัฐจะระดมเงินผ่านงบประมาณที่จะได้รับการสนับสนุนและจากตลาดการเงิน Rajiv Kumar เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังอินเดียเปิดเผยว่า นอกจากนี้รัฐบาลมีแผนที่จะลงทุน 108,000 ล้านเพื่อที่จะสร้างถนนไฮเวย์ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า การเพิ่มทุนของแบงก์รัฐในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้แบงก์มีฐานเงินทุนเพียงพอในการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามทาง Fitch Ratings Ltd. คาดการว่าแบงก์รัฐของอินเดียต้องการเงินทุนอีก 62,000 ล้านดอลาร์ในปี 2019 เพื่อที่จะรองรับความพอเพียงของฐานเงินกองทุนตามกฎของ Basel III ระบบธนาคารของอินเดียยังคงมีหนี้เสียอยู่ทำให้ทางรัฐบาลโมดีต้องเข้าไปจัดการเพิ่มทุน รวมทั้งใช้เงิน 100,000 ล้านรูปีเพื่อซื้อหุ้นแบงก์