โตโยต้าเตรียมตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในเมียนมา คาดเริ่มก่อสร้างปีนี้
เดอะสเตรทไทม์ส รายงานว่า บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มีแผนจะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในเมียนมา โดยคาดว่าบริษัทจะออกประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับแผนการในช่วงสิ้นเดือนนี้ และเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตภายในปีนี้ สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้าในเมียนมา คาดว่าจะตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองย่างกุ้ง และคาดว่าจะใช้เป็นโรงงานเพื่อประกอบรถบรรทุก โดยใช้ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ เมียนมามีประชากรประมาณ 50 ล้านคน เทียบเท่ากับเกาหลีใต้และสเปน โดยประชากรในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว มีค่าเฉลี่ยอายุประชากร 27.9 ปี ที่ผ่านมาเมียนมาจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความยากจนที่สุดในเอเชีย แต่เศรษฐกิจของเมียนมาเติบโตแข็งแกร่งมากในช่วงที่ผ่านมา โดยคาดว่าอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6-7% ต่อปี ในเมียนมามียอดขายรถยนต์ใหม่ในปี 2018 ประมาณ 17,500 คัน ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจุบันโตโยต้าส่งออกรถยนต์นั่งโดยสาร และรถยนต์ที่ใช้เชิงพาณิชย์ไปยังเมียนมา 2,000 คันต่อปี และมองเห็นศักยภาพของตลาดนี้ที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากข้อมูลเดือน ธ.ค. 2018 โตโยต้ามีโรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ใน27 ประเทศ โดยโรงงานในเมียนมา จะเป็นฐานผลิตเชิงกลยุทธ์แห่งใหม่ ทั้งนี้รัฐบาลเมียนมาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่ผลิตรถยนต์ในประเทศ โดยซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายแรกที่เข้าไปตั้งโรงงานผลิต […]
ผู้บริหารเฟด 4 ราย ระบุความตึงเครียดทางการค้าอาจกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ผู้บริหารระดับนโยบาย 4 รายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่รุนแรงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนให้กับภาคธุรกิจต่างๆ และอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ความเห็นของผู้บริหารระดับนโยบายบ่งชี้ว่า ผลกระทบของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมานาน 10 เดือนระหว่างสหรัฐและจีน จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาว่า เฟดจะยังคงอดทนต่อการตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า หากความไม่แน่นอนยังคงดำเนินต่อไป เศรษฐกิจสหรัฐก็จะเผชิญความเสี่ยงขาลง เพราะความไม่แน่นอนมีผลกระทบอย่างแท้จริง โดยส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และการลงทุน ด้านนายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ และ นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา กล่าวว่า ความไม่แน่นอนด้านการค้า อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ก็อาจช่วยหนุนให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น ส่วนนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า ตนเองกำลังจับตาอย่างระมัดระวังต่อความตึงเครียดด้านการค้า เนื่องจากวิตกว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง
อินโดนีเซียมั่นใจเหตุประท้วงไม่ส่งผลกระทบเศรษฐกิจมาก
เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า Darmin Nasution รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การรประท้วงและก่อจลาจลในอินโดนีเซียที่เกิดขึ้นไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายพลปราโบโว สุเบียนโต และเพื่อนร่วมขยวนการ Sandiaga Uno นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินโดนีเซียอย่างมีนัยสำคัญ “เหตุการณ์นี้จะกระทบกับการลงทุน ทำให้นักลงทุนยังคงจับตาและรอดูไปก่อน แต่ไม่เห็นผลกระทบที่ใหญ่กว่านี้ในด้านการลงทุน” Darmin กล่าวประเด็นนี้หลังจากที่ค่าเงินรูเปียอ่อนค่าลง และดัชนีตลาดหุ้นจาการ์ตา คอมโพสิต (JCI) ลดลง สำหรับการชุมนุมที่เกิดขึ้นนี้ มาจากผู้สนับสนุนของปราโบโว และ Sandiaga ซึ่งก่อจลาจลตามท้องถนน หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้นายโจโค วิโดโด ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย แต่กลุ่มของนายพลปราโบโว ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา โดยบอกว่า ผลการเลือกตั้งนี้ มาจากการโกง จนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ที่มาชุมนุมบนท้องถนนตั้งแต่คืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย 6 คน ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ประกาศระงับการให้บริการธุรกิจสาขารับแลกเปลี่ยนเงินเคลื่อนที่ (โมบาย แบงก์โน้ต-เอ็กซ์เชนจ์ เซอร์วิส) […]
ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเลื่อนเปิดตัวรถยนต์ในสหรัฐหลังสงครามการค้ารุนแรงขึ้น
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า จีเอซี มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีนได้เลื่อนการเปิดตัวรถยนต์ในสหรัฐออกไป หลังจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก ทั้งนี้สำนักงานใหญ่ของจีเอซี มอเตอร์ ในเมืองกวางโจว ทางตอนใต้ของจีน ออกมาให้ข้อมูลว่า การเข้าสู่ตลาดสหรัฐของบริษัทที่วางแผนไว้ภายในปีนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน “สถานการณ์ความสัมพันธ์ในปัจจุบันระหว่างสหรัฐและจีน สงครามการค้า และความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอน ทำให้เราต้องเลื่อนแผนการเข้าสู่ตลาดอเมริกาตอนเหนือไป” Hebin Zeng ประธาน ธุรกิจระหว่างประเทศ จีเอซี มอเตอร์ กล่าว ทั้งนี้ Zeng ปฏิเสธที่จะระบุเวลาที่ชัดเจนที่จีเอซีจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐ เขาให้ข้อมูลเพียงว่า คงต้องขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ปัจจุบันมีเพียง Geely เป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวที่ขายรถยนต์ในสหรัฐผ่านแบรนด์วอลโว่ ซึ่งเป็นเจ้าของ ส่วนจีเอซีได้ขยายไปตลาดต่างประเทศหลายแห่งแล้ว เช่น ตะวันออกกลาง
กลุ่มบริษัทอเมริกันเรียกร้อง ‘ทรัมป์’ ถอดรายการรองเท้าออกจากกลุ่มสินค้าที่ขึ้นกำแพงภาษี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัทรองเท้าจากสหรัฐ เช่น ไนกี้ และอันเดอร์ อาร์เมอร์ เรียกร้องให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐดึงกลุ่มรองเท้าออกจากรายการสินค้าที่จะปรับขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าจากจีน “เป้าหมายการปรับขึ้นกำแพงภาษีจาก 10% เป็น 25% ในกลุ่มสินค้ารองเท้าจะกลายเป็นหายนะสำหรับลูกค้าของเรา บริษัทของเรา รวมถึงเศรษฐกิจอเมริกันโดยรวมด้วย” กลุ่ม 173 บริษัท ชี้แจงในจดหมายที่ยื่นให้กับรัฐบาลของทรัมป์ ทรัมป์ ปรับขึ้นกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 10% เป็น 25% ไปแล้วช่วงต้นเดือน พ.ค. ซึ่งการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นคาดว่าจะทำให้ราคาสินค้ากว่า 1,000 รายการปรับขึ้นด้วย ในจำนวนนี้รวมถึงสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัมป์ ยังมีแผนจะขยับขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนอีกมูลค่ากว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเขาพบปะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในเดือนหน้า “อุตสาหกรรมนี้เสียภาษีประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทุกปี หากต้นทุนการนำเข้ารองเท้าปรับขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้บริโภคชาวอเมริกันที่ซื้อรองเท้า” บริษัท […]
จีนหวังใช้แทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ชนบท
ไชน่าเดลี รายงานว่า จีนวางแผนที่จะสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการพัฒนาพื้นที่ชนบท เพื่อยกระดับพื้นที่ในเขตชนบทให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสภาแห่งรัฐ จีนมีแนวทางพัฒนาหมู่บ้านดิจิทัลภายในปี 2020 พร้อมทำให้มากกว่า 98% ของหมู่บ้านเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 4G ทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตรวดเร็วในพื้นที่ชนบท ในด้านการยกระดับเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตนั้น ปี 2025 จะได้เห็นช่องว่างด้านดิจิทัลระหว่างชุมชนเมืองและชนบทน้อยลง มีผู้ประกอบการเกิดขึ้นมากมาย มีศูนย์กลางนวัตกรรมในพื้นที่ชนบท และระบบโลจิสติกส์ทางปัญญาในพื้นที่ชนบท จากนั้นในปี 2035 ตั้งเป้าหมายว่า จะได้เห็นความทันสมัยของพื้นที่ชนบทและพื้นที่เกษตรกรรม รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองและชนบทเข้าถึงบริการสาธารณะได้อย่างเท่าเทียม ขณะที่ในช่วงกลางศตวรรษ หมู่บ้านดิจิทัลจะถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อเติมเต็มให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จีนจะต้องเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีในพื้นที่ชนบท ยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต รวมถึงบริการด้านข้อมูลในพื้นที่ และเพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลทำได้เต็มที่มากขึ้น จะต้องมีการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลในด้านเกษตรกรรม การพัฒนาอี-คอมเมิร์ซ และอีกหลากหลายอุตสาหกรรมใหม่ๆ ในพื้นที่ชนบทของประเทศ นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมในพื้นที่ชนบทมากขึ้น ประเทศจะต้องเพิ่มความเข้มแข็งในการปกป้องระบบนิเวศในพื้นที่ชนบทด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมปรับปรุงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทเพื่อบรรเทาความยากจน และผลักดันให้มีการแบ่งปันข้อมูลเพิ่มขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแบบบูรณาการในเขตเมืองและชนบท
ซานฟรานซิสโกห้ามบุคลากรในเมืองซื้อและใช้งานเทคโนโลยีจดจำใบหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เมืองซานฟรานซิสโกได้ลงมติ 8 ต่อ 1 เสียง แบนไม่ให้บุคลากรในเมืองซื้อและใช้งานเทคโนโลยีจดจำใบหน้าในเมือง เพื่อควบคุมเครื่องมือที่บริษัทในซิลิคอน วัลเลย์ พัฒนา คณะกรรมการของเมืองซานฟรานซิสโก ยังบอกอีกว่า จะมีคำสั่งให้หน่วยงานในเมืองนำส่งนโยบายการใช้เทคโนโลยีเฝ้าระวังเพื่อตรวจค้นในพื้นที่สาธารณะมาให้ด้วย โดยจะมีการลงมติครั้งสุดท้ายสัปดาห์หน้าหลังจากลงมติไปแล้ว 2 ครั้ง ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ซานฟรานซิสโกกลายเป็นเมืองหน้าด่านของสหรัฐที่ออกมาสะท้อนถึงความไม่พอใจในการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐต่างก็ใช้เทคโนโลยีนี้มาเป็นปีแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีพลังอำนาจมหาศาลในการขับเคลื่อนการเติบโตของคลาวด์ คอมพิวติ้ง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) “เราต้องปกป้องสาธารณชนจากการใช้งานเทคโนโลยีในทางที่ผิดที่อาจเกิดขึ้นได้” Aaron Peskin หัวหน้างานของเมือง ซึ่งเป็นแกนนำในการแบน กล่าวก่อนการประชุมลงคะแนนเสียง เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ใช่นโยบายที่มีอคติต่อเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีนี้ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ในเครื่องมือเฝ้าระวังต่างๆ ต่อไป เช่น กล้องวงจรปิดเพื่อดูแลความปลอภัย เพียงแต่ต้องการออกแนวทางมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้เทคโนโลยีนี้ตามแนวทางที่เข้มงวด และในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น
5 แบรนด์มือถือครองส่วนแบ่ง 80% ในตลาดอินโดนีเซีย
เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า Canalys บริษัทวิจัย ประเมินว่า ยอดการส่งสมาร์ทโฟนในอินโดนีเซียปีที่ผ่านมาฟื้นตัว เติบโต 17.1% จากที่เติบโตเพียง 0.6% เมื่อปี 2017 และเคยหดตัว 3.3% เมื่อปี 2016 ขณะที่ The International Data Corporation (IDC) บริษัทวิเคราะห์วิจัยตลาด คาดการณ์ว่า การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกปีนี้จะลดลง 4.7% จาก 1,890 ล้านยูนิตเมื่อปีที่ผ่านมา เหลือ 1,800 ยูนิตในปีนี้ Rushabh Doshi ผู้จัดการฝ่ายวิจัย Canalys กล่าวว่า การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาที่รวดเร็วของการทำกิจกรรมอี-คอมเมิร์ซในท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหลักในการขับเคลื่อนตลาดแอปพลิเคชันบนมือถือ และทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ดีขึ้น “อินโดนีเซียเป็นตลาดอันดับต้นๆ ในด้านการส่งสมาร์ทโฟนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากนโยบายที่มีเสถียรภาพและสภาพแวดล้อมทางสังคมเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ” ทั้งนี้จากข้อมูล 4 ไตรมาสปีที่ผ่านมา แบรนด์สมาร์ทโฟนที่ครองตลาดอินโดนีเซีย มี […]
AI Artificial Intelligence Morning Brief
ประชุมสุดยอดหุ่นยนต์ในจีนคึกคัก หนุนเซ็นสัญญาลงทุนแล้ว 28 โครงการ
ไชน่าเดลี รายงานว่า ในการประชุมสุดยอดเกี่ยวกับหุ่นยนต์ชื่อว่า Sixth China Robotop and Intelligent Economic Talent Summit ซึ่งจัดขึ้นในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน พบว่า มีการเซ็นสัญญาลงทุนเกิดขึ้นจากงานนี้แล้ว 28 โครงการ รวมมูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านหยวน หรือ 1,760 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับ 28 โครงการนี้ มุ่งเน้นเกี่ยวกับหุ่นยนต์ การผลิตอัจฉริยะ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นหลัก โดยคาดว่าจะส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ขณะที่หุ่นยนต์และส่วนประกอบหลักล่าสุดจากองค์กรชั้นนำด้านหุ่นยนต์และการผลิตอัจฉริยะกว่า 80 แห่ง ถูกนำมาจัดแสดงในงานประชุมสุดยอดครั้งนี้
อินโดนีเซียเร่งขยายถนนเพิ่มเกือบ 4,500 กิโลเมตร ภายในปี 2030
รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมพัฒนาเส้นทางถนนแบบเรียกเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง (Toll Roads) เพิ่มถึง 4,479.33 กิโลเมตร ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่ 1, 500 กิโลเมตรที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2024 เพื่อสนับสุนนการขนส่งให้สะดวกสบายมากขึ้น นายสุกิยาร์ตันโต (Sugiyartanto) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาถนน กระทรวงโยธาธิการ และการเคหะ กล่าวว่า เส้นใหม่ที่พัฒนาเพิ่มจะเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้เข้าถึงจุดเศรษฐกิจสำคัญๆ ของประเทศมากขึ้น โดยเส้นทางที่จะพัฒนาเพิ่มเติมได้ครอบคลุมพื้นที่เกาะชวา สุมาตรา กาลีมันตัน ซูลาเวซี บาหลี และ นูซาเติงการา เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาโครงการถนนเรียกเก็บค่าผ่านทางครั้งนี้ นับเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานครั้งสำคัญที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละภูมิภาคที่กำลังเติบโต เพราะปัจจุบันถนนที่มีอยู่ไม่เพียงพอ และไม่สามารถรองรับการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของแต่ละพื้นที่ได้ ดังนั้นการเลือกขยายเส้นทางจึงต้องครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งรองรับการเติบโตของสนามบินใหม่