สภาผู้แทนสหรัฐผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษี
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้ผ่านกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับรีกันในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ทรัมป์ดูเหมือนว่าได้รับชัยชนะในเบื้องต้นหลังจากขับเคี่ยวกับสภาในเรื่องการลดภาษีมาตั้งแต่ช่วงแรกของปีนี้ สส.ในสภาโหวตกฎหมายปฏิรูปภาษี ที่มีชื่อว่าTax Cuts and Jobs Actด้วยคะแนน227ต่อ205เสียง กฎหมายปฏิรูปภาษีจะตัดลดภาษีนิติบุคคลจาก35%เป็น 20%ในปีหน้า ขั้นบรรได7ขั้นของภาษีจะลดลงเหลือ4ขั้น จะมีกายกเลิกภาษีทรัพย์สินอสังหาฯ และจะเปลี่ยนเป็นระบบภาษีดินแดนแทน หมายความว่าบริษัทจะถูกเก็บภาษีตามสถานที่ที่ก่อให้เกิดรายได้ นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนกล่าวว่าร่างกฎหมายภาษีนี้จะนำไปสู่การจ้างงานเพิ่ม และค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น และคนอเมริกันจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่มีสส.จากพรรคเดโมแครทคนใดแม้แต่คนเดียวที่โหวตให้กับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับรีกันเ มีสส.จากพรรครีพับรีกัน13คน ส่วนมากมาจากรัฐนิวยอร์ค และรัฐนิวเจอร์ซี่แหกคอก ไม่ยอมโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ เนื่องจากเห็นว่าจะมีการยกเลิกการลดหย่อนรายได้ภาษีของรัฐบาลท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีนี้ยังคงเจออุปสรรคอยู่ เพราะว่าต้องมีการนำเสนอต่อสภาเซเนทเพื่อโหวตให้ผ่าน มีการปรับปรุงร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเพื่อสำเสนอต่องคณะกรรมธิการทางการเงินของวุฒิสภา ทำให้ร่างกฎหมายนี้ต่างจากที่ผ่านในสภาผู้แทน เช่นการยกเลิกการให้ประกันภัยต่อคนอเมริกันตามโอบามาแคร์ ร่างกฎหมายของสภาเซเนทจะเลื่อนการลดภาษีออกไปจนถึงปี2019 และการลดภาษีบุคคลจะหมดอายุในปี2025 เพราะว่ายังคงมีความเป็นห่วงกับฐานะการคลังที่ขาดดุล และภาระหนี้ที่สูงของรัฐบาล
จับตา “Powell” ประธาน FED คนใหม่
Trump ตกลงเลือก Jerome Powell เป็นประธาน FED คนใหม่แทน Janet yellen ซึ่งจะหมดวาระลงในกุมภาพันธ์ 2018 Wall Street ให้การต้อนรับที่ดีต่อข่าวนี้ เพราะแนวความคิดในเรื่องนโยบายการเงินของ Powell เป็นไปในทิศทางเดียวกับ Yellen เช่น การค่อยเป็นค่อยไปของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการลดงบดุลของ FED กว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยพยายามไม่กระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินเป็นหลัก สำหรับเรื่องการดูแลสถาบันการเงิน Powell ไปแนวทางเดียวกับ Trump ที่ต้องการให้สถาบันการเงินมีความคล่องตัวในการทำธุรกิจมากขึ้น Powell แสดงให้เห็นว่าเขาจะสานต่อนโยบายของ Yellen และไม่พยายามแสดงให้เห็นว่าจะมีรอยต่อที่ส่อให้เกิดปัญหาในการดำเนินนโยบายของ FED
Warren Buffet และ Larry Fink โจมตีแผนลดภาษีของทรัมป์
ปู่วอร์เรน บัฟเฟด และลาร์รี่ ฟิงค์ แห่ง BlackRock ได้ออกมาโจมตีแผนลดภาษีของทรัมป์ว่าไม่เป็นธรรม และเชื่อว่าไม่น่าจะออกมาเป็นกฎหมายได้ บัฟเฟดบอกว่าแผนลดภาษีของทรัมป์จะช่วยบริษัทใหญ่ และคนอเมริกันที่รวยที่สุดที่ไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรอยู่แล้ว “พวกเรามีธุรกิจหลายอย่าง และผมไม่คิดว่าบริษัทของพวกเราไม่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกเนื่องจากอัตราภาษีนิติบุคคล” บัฟเฟดกล่าว บัฟเฟดกล่าวต่อไปว่า การยกเลิกภาษีอสังหาฯของทรัมป์จะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะว่ามันจะช่วยครอบครัวอเมริกันที่รวยที่สุดโดยไม่จำเป็น ภาษีอสังหาฯมีผลกระทบต่อครอบครัวอเมริกันเพียง0.2%ในเวลานี้ ไม่มีใครทราบว่าครอบครัวทรัมป์มีทรัพย์สินมากน้อยเพียงใด แต่จะได้ประโยชน์จากการยกเลิกภาษีอสังหาฯ ซึ่งเก็บอยู่ที่อัตรา 40% ในเวลานี้ ส่วนลาร์รี่ ฟิงค์จาก BlackRock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกออกมาวิจารย์นโยบายลดภาษีของทรัมป์เหมือนกัน โดยเขาบอกว่าการลดภาษีจะทำให้การขาดุลของรัฐบาลสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมโหฬาร สำนักงบประมาณของสภาคอนเกรซได้คาดการว่า การลดภาษีจะทำให้การขาดดุลหรือหนี้ของรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มเป็น 25 ล้านล้านดอลลาร์ แผนลดภาษีของทรัมป์จะลดอัตราภาษีที่เก็บกับผลกำไรของบริษัทจาก 30% เป็น 20% ฟิงค์มีความเห็นว่าอัตราภาษีนิติบุคลลที่ระดับ 27% น่าจะเหมาะสมมากกว่า บริษัทอเมริกันส่วนมากเลี่ยงที่จะจ่ายภาษีอยู่แล้ว ด้วยการเก็บผลกำไรที่ต่างประเทศ และอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย บริษัทแอ็ปเปิ้ล ซึ่งมีเงินสดในมือมากที่สุดในบรรดาบริษัทอเมริกันด้วยกันมีการเก็บเงินสด 246,000 ล้านดอลลาร์กับบริษัทลูกในต่างประเทศ บริษัทอเมริกันที่ใหญ่ที่สุด 6 แห่งมีการเก็บเงินสดที่ต่างประเทศรวมกัน 1.6 […]