BF Product Special WTRIGGER12-21
จับจังหวะลงทุนทั่วโลกกับ WTRIGGER12-21
สรุปความสัมภาษณ์ คุณศุภกร ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Head of Investment Research & Strategy กองทุนบัวหลวง กองทุนบัวหลวง เตรียมที่จะออกกองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์เวิลด์ 12-21 เป็นกองทุนรวมผสม ที่ไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ โดยมีอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 8% ภายในอายุโครงการ 8 เดือน เสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 26-28 เม.ย. นี้ ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย โดยมีมูลค่าขั้นต่ำของการซื้ออยู่ที่ 10,000 บาท กลยุทธ์ในการบริหารกองทุนนี้จะเป็นอย่างไร คุณศุภกร ตุลยธัญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Head of Investment Research & Strategy กองทุนบัวหลวง จะมาอธิบายให้เราฟังกัน Q : เราเล็งเห็นสัญญาณอะไรจึงเลือกออกกองทุนทริกเกอร์ที่ลงทุนทั่วโลกในช่วงจังหวะเวลานี้ A : ตลาดหุ้นโลกอยู่ในขาขึ้น ธนาคารกลางทั่วโลกดำเนินนโยบายอัดฉีดสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว […]
ลงทุนธุรกิจทั่วโลกที่ทำให้โลกยั่งยืนอย่างมั่นคงกับ B-SIP
เวลานี้ ทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างมากกับการจัดการสิ่งแวดล้อม และการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ขณะที่นักลงทุนก็มองหาโอกาสลงทุนในบริษัทเหล่านี้ เพื่อรับโอกาสที่เงินลงทุนจะเติบโตได้ในระยะยาวไปกับเทรนด์ใหญ่ของโลก ซึ่งล่าสุดกองทุนบัวหลวงก็มีผลิตภัณฑ์ที่มาตอบโจทย์นี้ให้นักลงทุน โดยจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน หรือ B-SIP ระหว่างวันที่ 1-8 มีนาคม 2564 ที่สาขาธนาคารกรุงเทพ และในวันนี้ คุณเสกสรร โตวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ Product Management กองทุนบัวหลวง จะมาเล่ารายละเอียดของกองทุนนี้ให้ฟังกัน Q : แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Investment มีจุดเริ่มต้นมาอย่างไร A : เป็นแนวคิดที่มีการผสมผสานกัน 2 เรื่อง เรื่องแรก คือ กระบวนการลงทุน การหาธุรกิจ และก็มุมมองการเติบโต เพื่อเรื่องของผลตอบแทน แต่ว่าจะมีการผนวกเรื่องการจัดการการดำเนินงานเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเข้าไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะทำให้รูปแบบการลงทุนมีการคัดเลือกกลุ่มหุ้นขึ้นมาเฉพาะกลุ่มหนึ่ง และเราก็คาดหวังการเติบโต เพราะเราเชื่อว่าบริษัทต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้คือบริษัทที่จริงใจกับผู้ลงทุน และมีโอกาสเติบโต สร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ […]
BF Product Special Product Special
B-CHINE-EQ Product Special: เศรษฐกิจจีนปัจจุบันอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวหลังก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ COVID-19
B-CHINE-EQ Product Special เศรษฐกิจจีนปัจจุบันอยู่ ณ จุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวหลังก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ COVID-19 และกำลังจะเร่งเศรษฐกิจด้วยการผลักดันการบริโภคภายในประเทศ คาดการณ์จะแซงหน้าสหรัฐฯในฐานะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2030 หุ้นจีนเป็นตลาดที่มีความเฉพาะตัวเห็นได้จากมีจำนวนบริษัทเทคยูนิคอร์นมากที่สุดของโลก บริษัทเหล่านี้แน่นอนว่ามีศักยภาพในการก้าวเข้าถึงความต้องการของลูกค้าตอบโจทย์การบริโภคในประเทศที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก หุ้นจีนจะมีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หลายประเทศ ทั้งในประเทศจีน (เอแชร์) ประเทศฮ่องกง และประเทศสหรัฐฯ (US-listed) แต่ละตลาดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แทนที่นักลงทุนจะโฟกัสไปยังตลาดเดียว กลยุทธ์การลงทุนแบบ all-in จะช่วยให้แสวงหาโอกาสลงทุนทั้งหมดที่มีในจีนได้ ในอดีตนักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาลงทุนหุ้นจีนผ่านเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง ในเวลาเดียวกันบริษัทจีนเริ่มมีการจดทะเบียนในสหรัฐฯมากขึ้นเป็นการอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนเข้าถึงหุ้นจีน การขยับขยายดังกล่าวได้นำมาสู่การเปิดตลาดเอแชร์ ซึ่งเป็นตลาดของหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศ ผ่านการลงทุนช่องทางสต็อคคอนเนคโปรแกรม บริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นเศรษฐกิจแบบเก่าเช่น สถาบันการเงิน สื่อสาร สาธารณูปโภค (ยกเว้นเทคโนโลยี) ขณะเดียวกันบริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในสหรัฐฯจะเน้นไปทางธุรกิจประเภทสินค้าฟุ่มเฟือย สื่อสาร ขณะที่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดเอแชร์มีความคลอบคลุมที่หลากหลายกว่า เป็นเศรษฐกิจใหม่ เช่น ธุรกิจประเภทท่องเที่ยว บันเทิง อุปกรณ์สื่อสาร 5G เฮลธ์แคร์ อุตสาหกรรมออโตเมชั่น พลังงานทางเลือก ยานยนต์ ไบโอเทคโนโลยี ความขัดแย้งทางการค้าที่ตึงเครียดต่อเนื่องทำให้บริษัทจีนที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดของสหรัฐฯหันกลับมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงเพราะต้องการลดความไม่แน่นอนของตัวเอง ซึ่งส่งผลดีเพราะเกือบทั้งหมดเป็นธุรกิจที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างระยะยาวที่เปลี่ยนแปลงไปของเศรษฐกิจจีน ในอีกมุมหนึ่งการที่บริษัทเหล่านี้หันกลับมาจดทะเบียนในบ้านเกิดของตัวเอง […]