กระทรวงพาณิชย์ของจีน (MOC) ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า สภาแห่งรัฐอนุมัติให้เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว เทียนจิน และฉงชิ่ง เป็นผู้นำในการพัฒนาเมืองศูนย์กลางการบริโภคระดับนานาชาติ Wang Wentao รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ด้วยการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนและสภาแห่งรัฐจีน และจะมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งกระบวนทัศน์การพัฒนาใหม่ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพในระดับสูงของประเทศอีกด้วย Wang กล่าวว่า กลยุทธ์นี้จะเน้นรวบรวมหน่วยงานที่มีคุณภาพ รวมไปถึงสินค้าและบริการในตลาดต่างประเทศที่มีคุณภาพ เพื่อการเร่งการพัฒนาแบรนด์ท้องถิ่น รัฐมนตรีให้คำมั่นว่า จะพยายามพัฒนาชุมชน ธุรกิจและปรับปรุงบริการด้านการควบคุมตลาด โดยกระทรวงพาณิชย์จะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อเปิดเผยแผนทั่วไปในการสร้างเมืองศูนย์กลางการบริโภคระหว่างประเทศ และทั้ง 5 เมืองจะกำหนดแผนการดำเนินงานเพื่อพัฒนางานก่อสร้างต่อไป ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การบริโภคได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในวงกว้าง โดยแผนระยะ 5 ปีครั้งที่ 14 (2021-2025) คาดว่าจีนจะกลายเป็นตลาดการบริโภคสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามการคาดการณ์ของสถาบันเพื่อการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งประเทศจีน  

รายงานข่าวจาก Xinhua ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทวิจัยด้านการลงทุน MRB Partners กล่าวว่า จีนจะยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักต่อการเติบโตของการค้าโลกในปีหน้า เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศและความต้องการนำเข้าของจีนยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง Mehran Nakhjavani พาร์ทเนอร์ดูแลตลาดเกิดใหม่ของ MRB Partners กล่าวว่า จีนชัดเจนว่าจะยังคงให้การสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกต่อไปในอนาคตอันใกล้ โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคเป็นหลัก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่พัฒนาขึ้นเองของลุ่มแม่น้ำโขง รวมถึงตัวบ่งชี้ทางเลือกด้านปริมาณการใช้ไฟฟ้า ปริมาณการขนส่งสินค้าทางราง และการปล่อยกู้จากธนาคาร ต่างชี้ว่าเศรษฐกิจของจีนได้พุ่งขึ้นสูงสุดในวงกว้าง เขา ตั้งข้อสังเกตว่า ยอดค้าปลีกในหลากหลายหมวดของจีนพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ขณะที่ยังคงขยายตัวในอัตราที่เร็วกว่าที่เคยเกิดขึ้นก่อนการระบาดใหญ่ การกลับสู่ระดับการบริโภคในระดับปกติ ได้รับการสนับสนุนด้วยการกำจัดอัตราเงินเฟ้อในด้านราคาอาหาร ซึ่งถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการใช้จ่าย อีกทั้งอาหารมีน้ำหนักมากในสัดส่วนของตะกร้าการบริโภคภาคครัวเรือน ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากข้อมูลที่รายงานโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน จะเห็นว่ายอดค้าปลีกโดยรวมของจีนในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับ 2 ปีที่แล้ว โดยยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้น 32% และยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปี 2019 ผลการดำเนินงานที่แท้จริงของการค้าต่างประเทศของจีนนั้นสอดคล้องกับการกลับสู่บรรทัดฐานก่อนที่จะเกิดการหยุดชะงักจากสงครามภาษีกับสหรัฐฯ และการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนา อีกทั้งข้อมูลการค้ายังถูกกดดันด้วยผลกระทบพื้นฐานและการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา

อดีตประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) มองว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่กำลังจะมีขึ้นในกรุงปักกิ่งนั้น น่าจะเป็นช่วงที่เงินหยวนดิจิทัลของจีน หรือ e-CNY จะถูกนำมาใช้ โดยจีนมองว่าเงินหยวนดิจิทัลเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของธนาคารกลางในการรักษาอธิปไตยทางการเงินในยุคดิจิทัล Li Lihui ปัจจุบันรับตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานวิจัยบล็อคเชนที่สมาคมธุรกิจการเงินผ่าน​อินเทอร์เน็ตจีน (NIFA) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ China Daily ว่า ในการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 4-20 ก.พ. 2022 คาดว่า จีนจะพร้อมสำหรับการใช้เงินหยวนดิจิทัลอย่างกว้างขวาง ซึ่งรวมถึงจุดเข้า-ออกบางจุด เช่น เมืองเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจวในมณฑลกวางตุ้ง Li กล่าวว่า เงินดิจิทัลซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลาง​ของจีน (PBOC) ถูกตั้งเป้าหมายให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจะเอื้อต่อการรักษาอธิปไตยทางการเงินและความมั่นคงทางการเงินของจีน ส่งเสริมความสมบูรณ์ของระบบการเงินในยุคดิจิทัล เขา มองว่า ในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 จะช่วยให้จีนสร้างมาตรฐานหรืออาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีนได้ อย่างไรก็ตามในระยะสั้นเงินหยวนดิจิทัลไม่น่าจะเปลี่ยนระบบการเงินทั่วโลกที่ครอบงำด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐได้มากนัก เนื่องจากเป็นเพียงการทดแทนส่วนหนึ่งของเงินสดที่หมุนเวียนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในธุรกิจประเภทขายส่ง สำหรับการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนั้นๆ หรือที่เรียกว่า ‘CBDC’ […]

Chinadaily รายงานว่า ยอดผู้ใช้งานเสียงและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตในจีนแตะระดับ 944 ล้านคน ในเดือน ธ.ค. 2020 เพิ่มขึ้น 43.21 ล้านคน จากช่วงเดือน มิ.ย. 2020 โดยยอดผู้ใช้งานนี้คิดเป็น 95.4% ของจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศ งานวิจัยโดยอุตสาหกรรมการพัฒนาเสียงและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตของจีนล่าสุด ที่เผยแพร่ออกมาในงานประชุมภาพและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ตของจีน ครั้งที่ 9 ซึ่งจัดขึ้นในเมืองเฉิงตู โดยระบุว่า จำนวนผู้ใช้งานวิดีโอขนาดสั้น แตะระดับ 873 ล้านคน คิดเป็น 88.3% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศ การใช้งานวิดีโอรูปแบบอื่นๆ อยู่ที่ 704 ล้านคน หรือ 71.1% และการสตรีมมิ่งสด 617 ล้านคน หรือ 62.4% ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเสียงและวิดีโอทางอินเทอร์เน็ต มีมูลค่าทะลุ 600,000 ล้านหยวนในปี 2020 เพิ่มขึ้นถึง 32.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า […]

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จากการที่จีนปราบปรามการขุดคริปโตเคอเรนซีอย่างรวดเร็วเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้กลุ่มนักขุดคริปโตฯ เช่น บิทคอยน์ ย้ายจากจีนไปยังอเมริกาเหนือและเอเชียกลางแทน เนื่องจากลูกค้าชาวจีนเผชิญความไม่แน่นอนในอนาคตอยู่ ทั้งนี้ รัฐบาลกลางของจีนประกาศว่าจะจัดการปิดการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการขุดและซื้อขายบิทคอยน์ เป็นเหตุที่ทำให้นักขุดระงับการดำเนินงานบางส่วนหรือทั้งหมดที่อยู่ในจีน ซึ่งคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของอุปทานด้านคริปโตฯ ของโลก Ebang International ซึ่งตั้งอยู่ในหังโจว ระบุว่า เครื่องขุดของบริษัทจะยังคงขาดตลาดในต่างประเทศ แม้ว่ายอดขายจากในประเทศจะหายไปก็ตาม และบริษัทก็มองว่าผลกระทบจากการปราบปรามของจีนจะทำให้ลูกค้าในประเทศจะหันไปขุดจากต่างประเทศแทน ขณะที่บริษัท BIT Mining ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซินเจิ้น กล่าวว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงกับบริษัทในคาซัคสถานที่ร่วมมือกันลงทุนศูนย์ข้อมูลขุดคริปโตฯ ในเอเชียกลาง การขุดบิทคอยน์นั้นต้องใช้ขุมกำลังและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับยืนยันธุรกรรมบิทคอยน์ในกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งเหรียญบิทคอยน์ใหม่ ซึ่งธุรกิจนี้ใช้พลังงานสูงและเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ในจีน แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดของจีนจะลดลงมาหลายปีแล้วจากความไม่แน่นอนของการกำกับดูแล Alex Ao รองประธาน บริษัท Innosilicon Technology ผู้ออกแบบชิปและผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตฯ กล่าวว่า ถ้าจีนสูญเสียขุมพลังการประมวลผลคริปโตฯ นักขุดต่างชาติก็จะได้ประโยชน์ โดยอเมริกาเหนือและเอเชียกลางมีข้อได้เปรียบในแง่ของแหล่งจ่ายไฟและการสนับสนุนด้านนโยบาย ขณะที่นักขุดจีนจำนวนมากน่าจะย้ายไปขุดในต่างประเทศแทน Edward Lu รองประธานอาวุโส Canaan Inc ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตฯ ในจีนอีกราย […]

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า จีนห้ามสถาบันการเงินและบริษัทชำระเงินจากการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมคริปโตเคอเรนซี และยังเตือนนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปเก็งกำไรซื้อขายคริปโตฯ อีกด้วย นี่ถือเป็นความพยายามล่าสุดของจีนเพื่อจำกัดตลาดการซื้อขายดิจิทัลที่กำลังเติบโต โดยภายใต้การห้ามสถาบันครั้งนี้ ครอบคลุมธนาคารพาณิชย์ ช่องทางการชำระเงินออนไลน์ จะต้องไม่นำเสนอบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ เช่น การลงทะเบียน การซื้อขาย การหักบัญชีและชำระบัญชี “เมื่อเร็วๆ นี้ ราคาคริปโตฯ พุ่งขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การซื้อขายเก็งกำไรคริปโตฯ ดีดตัวกลับมา โดยมีการละเมิดความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของผู้คนอย่างจริงจัง และยังไปขัดขวางเศรษฐกิจปกติ รวมถึงคำสั่งทางการเงินด้วย” นี่เป็นข้อความจากแถลงการณ์ร่วม 3 หน่วยงานจีน ประกอบด้วย สมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติจีน สมาคมธนาคารแห่งประเทศจีน และสมาคมการชำระเงินและหักบัญชีแห่งชาติจีน จีนห้ามการแลกเปลี่ยนคริปโตฯ และเสนอขายเหรียญให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) แต่ไม่ได้กีดกันบุคคลทั่วไปจากการถือครองคริปโตฯ แถลงการณ์ของ 3 หน่วยงาน ย้ำว่า สถาบันต้องไม่ให้บริการรับฝาก หรือบริการที่ให้ความเชื่อมั่นคริปโตฯ รวมทั้งไม่ออกผลิตภัณฑ์การเงินที่เกี่ยวข้องกับคริปโตฯ นี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวครั้งแรกของจีนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล เมื่อปี 2017 จีนสั่งปิดบริการแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ในท้องถิ่น ปิดกั้นตลาดเก็งกำไรซึ่งคิดเป็น 90% […]