นายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง แสดงวิสัยทัศน์ ในระหว่างการประชุม Boao Forum
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM นายกรัฐมนตรี หลี่เฉียง แสดงวิสัยทัศน์ ในระหว่างการประชุม Boao Forum ที่จัดขึ้นในช่วงวันที่ 28-30 มี.ค. โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ เพิ่มกำลังการผลิตสำหรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ให้มากกว่า 1000 กิกะวัตต์ ภายในปีนี้ นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซีย นาย Anwar Ibrahim กล่าวว่า จีนจะต้องรื้อฟื้น Belt and Road Initiative ขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ นายกฯ ของมาเลเซียได้เข้าร่วมในงานสัมมนาดังกล่าว และมีแผนที่จะเข้าพบกับผู้นำของจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและจีน นายกรัฐมนตรีของจีน กล่าวว่า จีนเป็นผู้เล่นสำคัญในเกมภูมิรัฐศาสตร์ในการที่จะนำสันติภาพของโลกกลับมา ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลกในขณะนี้ จีน คือ สิ่งที่แน่นอนที่สุด ภาพเศรษฐกิจจีนขยายตัวได้อย่างดี ทั้งยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลความเสี่ยงลูกโซ่ หรือ Systemic Risk […]
เปิดสาเหตุ วิกฤติอสังหาฯ จีน หวั่นจีดีพี 66 โตช้ากว่าคาด เหตุผิดนัดชำระหนี้
เปิดสาเหตุ “วิกฤติฟองสบู่” ภาคอสังหาฯ จีน ที่ทำให้นักวิเคราะห์กังวลว่า อาจเกิดการผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ จนฉุดจีดีพีจีนปี 2566 เหลือ 3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 5% Key Points กิจกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์สร้างเม็ดเงินให้เศรษฐกิจจีน คิดเป็นประมาณ 17 – 29% ของจีดีพีแต่ละปี ราคาบ้านในจีนปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 10 – 15 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนเห็นท่าไม่ดี รีบประกาศนโยบายสกัดวิกฤติฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีนได้รับผลกระทบอย่างมากจากวิกฤติดังกล่าว จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง นักวิเคราะห์กังวล หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ จีดีพีจีนอาจลดฮวบเหลือ 3% จากที่ตั้งไว้ว่าปี 2566 จะโต 5% “ภาคอสังหาริมทรัพย์” เป็นภาคส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980 มาถึงทุกวันนี้ภาคส่วนดังกล่าวก็ยังมีบทบาทสำคัญต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของจีน โดยมีอัตราส่วนอยู่ประมาณ 17 – 29% ของจีดีพี หากอ้างอิงตามข้อมูลของธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC) การลงทุนโดยตรงในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนปี 2563 อยู่ที่ […]
ตามคาด! ‘สี จิ้นผิง’ นั่งปธน. แดนมังกรต่อสมัย 3
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม คณะผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนราว 3 พันคน ได้ลงคะแนนโหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ทั้งยังโหวตรับรองให้นายสี ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางเป็นสมัยที่ 3 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการกระชับอำนาจเด็ดขาดไว้ในมือนายสี และทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของจีน นับจากเหมา เจ๋อตุง การประชุมดังกล่าวมีขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน โดยการลงคะแนนโหวตกินระยะเวลาราว 1 ชั่วโมงและนับคะแนนด้วยเครื่องนับคะแนนอิเล็กทรอนิกส์อีกราว 15 นาที ผลการลงคะแนนรับรองการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสีต่อไปอีก 5 ปี อยู่ที่ 2,952 ต่อ 0 นอกจากนั้นแล้ว ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังโหวตให้นายจ้าว เล่อจี้ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยศูนย์กลางพรรค ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ และนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีจีน ถูกรับเลือกให้ขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีจีนคนใหม่ โดยทั้งคู่มาจากคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองชุดเก่าที่เพิ่งหมดวาระไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลังทราบผลการลงคะแนน […]
จีนเตรียมตั้ง ‘หลี่ เฉียง’ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ คนใหม่
จีนเตรียมตั้งนายหลี่ เฉียง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สื่อต่างประเทศและสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า จีนเตรียมแต่งตั้งหลี่ เฉียง วัย 63 ปี คนสนิทของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจีนอย่างเป็นทางการ แทนที่ หลี่ เค่อเฉียง ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือเอ็นพีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ มีข้อมูลว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการปฏิรูปตลาด เริ่มถูกจำกัดบทบาท หลังจากที่นายสี จิ้นผิง กระชับอำนาจและเข้ามาจัดการด้านเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ที่คอยสังเกตการณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การแต่งตั้งหลี่ เฉียง ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจีน หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงอันดับ 2 รองจากประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ถือว่ามีข้อดี คือ เขาจะได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากผู้นำจีน แต่ก็เป็นช่องโหว่ในบางเรื่อง จากกรณีที่เขาเคารพและเกรงใจผู้นำจีนมากเกินไป ทำให้อาจมีผลต่อการทำหน้าที่ของเขา ส่วนประวัติคร่าวๆ ของ หลี่ เฉียง […]
“เจพี มอร์แกน” ชี้ “จีน” ยังเป็นตลาดมีศักยภาพมากที่สุด
“ทรอย โรร์เบาห์” หัวหน้าฝ่ายการตลาดโลก ของเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ มองว่า จีนเป็นตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพมากที่สุด ในขณะที่บริษัทกำลังตั้งเป้าขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศ ในการประชุมครั้งนี้ นายโรร์เบาห์ยังได้เน้นย้ำถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดูไบ ซึ่งดึงดูดเงินทุนและการโยกย้ายธุรกิจจากเอเชีย สำหรับในมุมมองที่กว้างมากขึ้นนั้น นายรัวร์เบาห์ คาดการณ์ว่า ตลาดจะเผชิญกับความไม่แน่นอนที่เป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ “จีนเป็นโอกาสที่ใหญ่ที่สุดสำหรับในตอนนี้ เรายังคงลงทุนต่อไปอย่างที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ และจะเป็นไปอย่างรอบคอบระมัดระวัง ซึ่งเราพร้อมที่จะปรับตัวหากจำเป็น” นายโรร์เบาห์ กล่าวกับนักลงทุนระหว่างการประชุม “ความผันผวนจะยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะในเศรษฐกิจมหภาค อย่างไรก็ดี ตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุนจะขยายตัวดีกว่าที่คาด แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจก็ตาม” นายโรร์เบาท์ กล่าว ด้านนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเปิดประเทศของจีน และผลกระทบด้านบวกที่มีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยบรรดานักเศรษฐศาสตร์และผู้นำทางธุรกิจ และเขาเองก็มีแผนที่จะเดินทางไปยังประเทศจีนในไม่ช้านี้ ที่มา: รอยเตอร์
เศรษฐกิจจีนน่าจะผ่านพ้นช่วงเลวร้ายที่สุดไปแล้ว และกำลังหาจุด Take-Off
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 2566) เป็นวันประกาศตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจรายเดือน รวมทั้ง GDP ของจีน ซึ่งแม้ว่า GDP ทั้งปีของจีนจะออกมาต่ำสุด นับตั้งแต่ช่วง 1970s (3% ในปี 2022 เทียบกับ 8.4% ในปี 2021) แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนไม่ได้ทำ Low ไปมากกว่า Low เดิม ก็น่าจะเป็นการส่งสัญญาณเชิงเทคนิคได้ส่วนหนึ่งว่า เศรษฐกิจจีนกำลังยก Low นักวิเคราะห์หลายสำนัก ต่างออกมาให้ความเห็นเดียวกันว่า เศรษฐกิจจีนผ่านช่วงที่แย่ที่สุดไปแล้ว ฐานที่ต่ำในปี 2022 จะเป็นตัวยก GDP ปีหน้าไปเกิน 5.0% ถ้าจีนยังคงรักษาการเปิดประเทศไว้ที่ระดับนี้ อานิสงส์บวกนี้จะส่งผลบวกไปต่อประเทศอื่นๆ ใน Emerging Asia รวมถึงประเทศไทยด้วย ในเชิงนโยบาย […]
‘สี จิ้นผิง’ เจอโจทย์ยาก จีดีพีปี 2565 ของจีนโตต่ำสุด
เศรษฐกิจจีนปี 2565 เซ่นพิษนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยจีดีพีไตรมาส 4 โตต่ำสุดในรอบ 4 ทศวรรษ ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานโดยอ้างข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ซึ่งแถลงเมื่อวันอังคาร (17 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของแดนมังกรในปี 2565 ขยายตัวแค่ร้อยละ 3 ต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ที่ร้อยละ 5.5 ส่วนจีดีพีช่วงไตรมาสที่ 4 ขยายตัวร้อยละ 2.9 ลดลงจากร้อยละ 3.9 ช่วงไตรมาสที่ 3 แม้จีดีพี ซึ่งทางการประกาศดังกล่าวจะดีกว่าที่หลายสำนักข่าวระบุในโพลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ เช่น รอยเตอร์ระบุเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.8 และเอเอฟพีเฉลี่ยที่ร้อยละ 2.7 แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนเคยตั้งไว้ที่ร้อยละ 5.5 ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษอยู่แล้ว หากไม่นับจีดีพีของปี 2563 อันเป็นปีที่โรคโควิด-19 อุบัติ โดยจีดีพีของปีนั้นโตเพียงร้อยละ 2.2 อ่อนแรงสุด นับตั้งแต่ปีที่ประธานเหมา เจ๋อตง […]
เปิดปลายทางใหม่ในฝันนักท่องเที่ยวจีน
ธุรกิจท่องเที่ยวนานาประเทศล้วนคึกคักเมื่อจีนเปิดพรมแดนอีกครั้ง แต่ในมุมของนักท่องเที่ยวจีน การกลับมาท่องโลกครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนโควิด เมื่อพวกเขาปรารถนาเดินทางไปหาประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ มากขึ้น ข้อมูลจากทริปดอทคอมกรุ๊ป (Trip.com Group) เผยว่า การจองเที่ยวบินไปต่างประเทศพุ่งขึ้น 254% เมื่อปลายเดือน ธ.ค. หลังทางการประกาศผ่อนคลาย ข้อจำกัดการเดินทางในวันที่ 8 ม.ค. เวนดี มิน หัวหน้าฝ่ายสื่อและบริหาร การสื่อสารทริปดอทคอมกรุ๊ป เผยกับซีเอ็นเอ็น มองแนวโน้มการท่องเที่ยวในทางที่ดี “การประกาศนโยบายล่าสุดกำลังกระตุ้นให้คนเดินทาง เราหวังว่า ความต้องการที่อัดอั้นมานานจะแข็งแกร่ง และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค” หากพิจารณาจากการจองผ่าน ทริปดอทคอมกรุ๊ป แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ของชาวจีนหนีไม่พ้นสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย ส่วนทริประยะไกล ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และ ออสเตรเลีย “แนวโน้มเที่ยวบินระยะสั้นได้รับความนิยมเพราะราคาถูก สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้วแม้แต่ก่อนโควิด” มิน กล่าว ขณะที่ โวลฟ์กัง จอร์จ […]
จีนพับแผนลงทุนชิป หลังอ่วมจากโควิด
จีนเตรียมระงับการลงทุนก้อนใหญ่ในการสร้างอุตสาหกรรมชิป เพื่อแข่งขันกับสหรัฐฯ หลังประเทศกำลังเจอการระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ พร้อมจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มที่จะบั่นทอนระบบเศรษฐกิจและสถานะทางการเงินของประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกำลังหารือถึงวิธีการอื่น ๆ ในการส่งเสริมผู้ผลิตชิปจีนแทนที่การให้เงินอุดหนุน เนื่องจากใช้งบประมาณเยอะ และจนถึงขณะนี้ยังแทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ซ้ำยังกระตุ้นให้เกิดการรับสินบนและเสี่ยงต่อการถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ อีกด้วย แหล่งข่าว เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงส่วนหนึ่งกำลังพยายามผลักดันมาตรการทุ่มเม็ดเงินจูงใจสูงถึง 1 ล้านล้านหยวน (หรือประมาณ 4.95 ล้านล้านบาท) ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกลับมองว่า วิธีการที่รัฐเข้าไปลงทุนพร้อมเงินก้อนโตจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดการณ์ไว้ และพวกเขากำลังพิจารณาวิธีการอื่นๆ ในการสนับสนุนผู้ผลิตชิปจีนแทน เช่น การลดต้นทุนของวัสดุประเภทเซมิคอนดักเตอร์ อันเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตชิป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีของจีนในการแข่งขันกับสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลปักกิ่งมองว่า ชิปเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการท้าทายสหรัฐฯ เนื่องด้วยสหรัฐฯ ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดชิปโลกมาก่อน อีกทั้งยังช่วยปกป้องเศรษฐกิจของประเทศและความสามารถในการแข่งขันด้านการทหารของจีนอีกด้วย อย่างไรก็ดี นี่ก็สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจของจีนกำลังเผชิญภาวะถดถอย ทำให้ต้องลดความทะเยอทะยานในการพัฒนาอุตสาหกรรมชิปเพื่อไปแข่งขันกับสหรัฐฯ ลง ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นนโยบายหลักของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และหันไปเพิ่มงบประมาณในด้านที่สำคัญอื่นๆ แทน ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมไปจนถึงการป้องกันประเทศ ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณานโยบายชิปใดบ้าง หรือท้ายที่สุดจีนจะยกเลิกการทุ่มการลงทุนมหาศาลเพื่อหนุนภาคการผลิตที่ทำมาตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาหรือไม่ […]
เปิดประเทศ! จีนยกเลิกมาตรการกักโรค ‘โควิด’ นักเดินทาง เริ่มตั้งแต่ 8 มกราคม 2566
จีนจะหยุดบังคับนักเดินทางขาเข้าจากการเข้าสู่การกักกันโรค เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป จากการเปิดเผยของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการมุ่งหน้าสู่การผ่อนปรนมาตรการควบคุมชายแดน ซึ่งถูกปิดตายเป็นส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2020 นอกจากนี้ การบริหารจัดการโควิด-19 ของจีน จะถูกปรับลดสู่ระดับ Category B จากระดับ Category A ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุ เนื่องด้วยโรคติดต่อนี้มีความอันตรายน้อยลง และจะค่อยๆ พัฒนาสู่โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจทั่วไป มาตรการอดทนเป็นศูนย์ที่บังคับใช้มานาน 3 ปี ไล่ตั้งแต่ปิดชายแดนต่างๆ ไปจนถึงล็อกดาวน์บ่อยครั้ง ได้ทุบทำลายเศรษฐกิจจีน และเมื่อเดือนที่แล้ว มันโหมกระพือการแสดงออกถึงความไม่พอใจของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ นับตั้งแต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก้าวขึ้นสู่อำนาจในปี 2012 อย่างไรก็ตาม จีนตัดสินเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหันในเดือนนี้ ยกเลิกข้อจำกัดสกัดโควิด-19 ภายในประเทศเกือบทั้งหมด ความเคลื่อนไหวที่ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศต้องตะเกียกตะกายรับมือกับระลอกคลื่นผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เบื้องต้น ข้อกำหนดอันเข้มงวดเกี่ยวกับนักเดินทางขาเข้ายังคงมีผลบังคับใช้ ในนั้นรวมถึงมาตรการบังคับกักโรค 5 วัน ตามสถานที่ต่างๆ ที่ตรวจตราโดยรัฐบาล […]